นางสาววิสาชิณี รุ่งทวีชัย เจ้าของฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย และผู้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด วานิไทย ได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูลตราวานิไทยว่า “ผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูล เกิดจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ต้องการจะศึกษาคุณสมบัติทางชีววิทยาของจระเข้ จึงได้เกิดการร่วมมือและสนับสนุนงานวิจัย จนได้เป็นสารสกัดเลือดจระเข้ในรูปแบบแคปซูลภายใต้ชื่อ “วานิไทย” ซึ่งเป็นเจ้าต้นๆของประเทศที่สามารถผลิตแคปซูลสารสกัดเลือดจระเข้ ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ ผ่านการตรวจสอบจากกรมการอาหาร และยา กระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็น ต้นตำรับของผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูล
“ จระเข้ถือเป็นสัตว์ที่มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี แม้กระทั่งในสิ่งแวดล้อม ที่ไม่สะอาด จระเข้ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรง ซึ่งจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สารที่พบในเลือดจระเข้พบว่า เซลล์เม็ดเลือดขาวของจระเข้สามารถสร้างโปรตีนที่มีคุณสมบัติในการยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์ได้ ทีมวิจัยจึงได้วิจัย และพัฒนาคุณสมบัติดังกล่าวเป็นเวลานานหลายปีเพื่อนำมาปรับใช้ในเชิงสุขภาพจนได้เป็น “เลือดจระเข้แคปซูล วานิไทย” ผลิตภัณฑ์คุณภาพสัญชาติไทยที่เน้นทั้งคุณภาพ ความสะอาด และปลอดภัยต่อผู้บริโภคตลอดกระบวนการผลิต ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลโดยตรงได้จากเว็บไซต์และสื่อต่างๆ ”
นอกจากนี้แบรนด์วานิไทย ยังได้ทำการศึกษาและวิจัยส่วนอื่นๆ ของจระเข้ เพื่อเตรียมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ ด้าน เช่น ซีรัมเลือดจระเข้ (Wani-Se) ที่ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง เหมาะกับผู้ป่วยด้านเบาหวาน กระดูกจระเข้ (Wani-B) ที่มีปริมาณแคลเซียมสูง ช่วยในเรื่องโรคกระดูกพรุนหรือกลุ่มคนที่กระดูกไม่แข็งแรง น้ำดีจระเข้ (Wani-D) ช่วยในเรื่องโรคจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงระบบย่อยอาหารด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยในด้านอื่นๆ อีก เช่น ตับอ่อนและไข่จระเข้ เป็นต้น
เจ้าของผลิตภันฑ์สาวให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในด้านการตลาดหลังจากผลิตภัณฑ์ได้วางจำหน่ายสู่ท้องตลาดในประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ดูแลสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง และในปี 2561 ผู้ผลิตมีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ โดยในช่วงแรกที่นำผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย มีสัดส่วนลูกค้าชาวไทยสูงถึง 90% ของยอดขาย ต่อมาเมื่อมีกลุ่มทัวร์ต่างประเทศติดต่อขอซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามา ทำให้ในระยะเวลา 2 ปี สัดส่วนลูกค้าชาวต่างประเทศพุ่งสูงถึง 80 % ของยอดขาย สำหรับปัจจุบันลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่คือประเทศจีน และนอกจากนี้ แบรนด์วานิไทยยังได้เตรียมส่งออกผลิตภัณฑ์ในอีกหลายๆ ประเทศรอบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ลาว, เวียดนาม, สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี
“ ในปีนี้ “วานิไทย” ได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น และเตรียมเพิ่มช่องทางการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาให้แบรนด์ก้าวทันตลาดโลกในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ครอบคลุม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย รวมถึงเคเบิ้ลทีวีและวิทยุกระจายเสียง เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าต่างจังหวัดได้”