“ปัญหาปาล์มขาดคอ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวสวนปาล์มต้องเจอ พอได้คำแนะนำจากผู้รู้ให้ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าเป็นแนวอินทรีย์และเป็นมิตรกับธรรมชาติก็สนใจทดลองอยู่แล้ว ผลทีได้คือต้น และทางทลายหรือก้านของกาบใบมันก็เขียวขึ้น”

คงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ต้นปาล์ม” หรือ  “ปาล์มน้ำมัน” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง ของชาวเกษตรกร โดยเฉพาะใน “จังหวัดทางภาคใต้” ให้ความนิยมปลูกกันจำนวนมาก  เนื่องจากเป็นพืชที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ดังนั้นปาล์มน้ำมันจึงเจริญเติบโตได้ดีในภาคใต้ของประเทศ บริเวณพื้นที่ที่ปลูกมากที่สุด คือจังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร สตูลและตรัง

ทั้งนี้ เนื่องจากผลตอบแทนการปลูกปาล์มน้ำมันดีกว่าการปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ยางพาราและการทำนาข้าว จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูก  และ ด้วยความสนใจอยากรู้ในเรื่องการปลูกปาล์มน้ำมันของชาวสวนทางภาคใต้ทาง “ทีมงานสยามธุรกิจ” จึงได้ลงไปบุกถึงพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้เพื่อพบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวเกษตรกรสวนปาล์มกันถึงสวนจำนวน  3  สวนกันเลย 

เริ่มที่  นายสะอาด แก้วจินดา เจ้าของสวนปาล์ม จ.กระบี่ เล่าว่า ปัจจุบันตนเองรับหน้าที่อีกบทบาทหนึ่งก็คือเจ้าของศูนย์เรียนรู้ชุมชน ในส่วนของเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อหลวงของเรา โดยศูนย์ดังกล่าว เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2542 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ก็ประมาณ 18-19 ปีแล้ว ก็ยังทำตามรอยพ่อหลวงอยู่ ตรงนี้ทุกคนจะได้บริโภคผักปลอดสารพิษทุกสิ่งทุกอย่างปลอดสารพิษแล้วก็เหลือกินเหลือใช้นำไปจำหน่ายที่ตลาด เดือนละ 8 ครั้ง ครั้งละ400-500 บาท ถือเป็นการส่งเสริมให้ชาวเกษตรมีรายได้ด้วย และในอีกบทบาทก็คือการเป็นเจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน จำนวน 12 ไร่ ซึ่งปัญหาก็จะมีก็คือ “ปาล์มขาดคอ” ลูกจะไม่ค่อยมี ซึ่งจะเป็นเรื่องของการดูดซับธาตุอาหารที่ขึ้นจากดินไปไม่ทัน ยิ่งปาล์มอายุเยอะปัญหาในเรื่องของการขาดคอในการส่งธาตุอาหารขึ้นไปปรุงอาหารที่ใบก็จะใช้เวลานานขึ้น เลยทำให้เกษตรกรประสบปัญหาของสวนปาล์มขาดคอ

“ปัญหาปาล์มขาดคอ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวสวนปาล์มต้องเจอ จึงต้องหาวิธีรักษาให้กับปาล์มให้ได้ และได้คำแนะนำจากผู้รู้ให้ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจ โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าเป็นแนวอินทรีย์และเป็นมิตรกับธรรมชาติก็สนใจทดลองอยู่แล้ว จึงทดลองใช้ก็เห็นว่าต้นมันเขียวขึ้นทางทลายหรือก้านของกาบใบมันก็เขียวขึ้นและยอดมันจะมีขุยขึ้นมาขาวๆ นั่นเป็นการบ่งบอกตัวแรกว่า ปาล์มมันเริ่มสมบูรณ์ และใบไม่มีเหลือง และพอใบไม่เหลืองทางสมบูรณ์นั่นหมายความว่า ธาตุอาหารเริ่มเดินปกติและต้นปาล์มก็อิ่ม พอปาล์มอิ่มจากที่เป็นแต่ตัวผู้ก่อนหน้านี้ก็จะได้ตัวเมียมากขึ้น และจะเป็นทลายตัวเมียมากขึ้น เพราะจริงๆ แล้วทลายปาล์มที่ออกมาพร้อมที่จะสะสมเกสรเป็นตัวเมียทั้งหมด แต่ถ้าทลายไหนที่มีการขาดคอในระหว่างที่ช่วงแทงทลายออกมา เมื่ออาหารมันขาดช่วง อาหารไม่สมบูรณ์ไม่อิ่ม แคลเซียมโบรอนน้อยก็จะทำให้การผสมเกสรไม่ติดก็เลยกลายเป็นทลายตัวผู้ แต่หลังจากที่ได้รับสารอาหารเต็มที่ ทลายตัวเมียเริ่มมากขึ้นในสวน ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วย”

สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าเยี่ยมชมหรือศึกษางานการทำเกษตรกรสวนปาล์มน้ำมัน สามารถติดต่อมาได้ที่ โทร.084-8482-768,087-882-6679 และ087-909-6258 ต.ปลายพะยา อ.ปลายพะยา จ.กระบี่ หรือที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน นายสะอาด แก้วจินดา

ถัดมาอีกหนึ่ง สวนปาล์ม ของ “นางประพร้อม ทุ้มทอง” เจ้าของสวนปาล์ม จ.กระบี่ อีกหนึ่งที่ เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมาเคยประสบปัญหาดินเป็นกรด เพราะเคยใช้ปุ๋ยเคมีมาด้วยระยะเวลาที่เนิ่นนาน สภาพดินจึงเสียหาย แต่หลังจากมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์สยามธุรกิจเพียงปีกว่าๆ สภาพดินก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะในดินมีไส้เดือนกลับมาช่วยบำรุงดินอีกทางหนึ่ง เพราะปุ๋ยอินทรีย์เป็นมิตรกับสัตว์ที่ช่วยบำรุงดินด้วย

“ช่วงที่ใช้ปุ๋ยเคมีส่งผลให้สภาพดินเสีย เป็นกรด สุดท้ายแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็ต้องโค่นต้นปาล์มทิ้ง สาเหตุที่เป็นกรดเพราะว่าใช้เคมีมานานกว่า 6-7 ปี แต่พอลองเปิดใจมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์สยามธุรกิจดูแล้ว ก็เริ่มเห็นผลดีขึ้นเรื่อยๆ จากที่ไม่มีไส้เดือดเลยก็มีไส้เดือดกลับมาในพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญยังสามารถเพิ่มผลผลิตให้อีกด้วย จากเมื่อก่อนในพื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 140 ต้น มีผลผลิต 3 ตัน/เดือน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ถือว่าสร้างความประทับใจให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก และก็ประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจ”

ปิดท้ายที่ นายเจริญ เจ้าของสวนปาล์ม อ.พระแสง จ.สุราษณ์ธานี บอกว่า ด้วยประสบการณ์ที่อยู่กับสวนปาล์มมาร่วมเกือบ 20 ปี แต่ปัญหาก็จะมีคล้ายๆ กับเจ้าอื่นก็คือ ปาล์มขาดคอ ได้ธาตุอาหารไม่เต็มระบบ ยิ่งถ้าต้นปาล์มอายุ 14 ปี มากที่จะให้ขึ้น2-3ชั้นได้ 1ชั้นถือว่าเก่งแล้ว หรือประมาณ5-7ทลาย ก็เก่งแล้ว จึงได้ลองเปิดใจมาทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจตามคำแนะนำของผู้รู้ ซึ่งได้ผลอย่างเห็นได้ชัด จากพื้นที่ 5 ไร่ ที่เคยได้ 2 ตัน หรือ 2 ตันกว่าๆ เพิ่มขึ้นเป็น 3 ต้นอย่างไม่น่าเชื่อ

“ในจำนวน 200 ต้น หรือประมาณ 100 กว่าไร่นี้ ได้เริ่มใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของสยามธุรกิจไปบางส่วน จะเห็นได้ชัดเจนว่าส่วนไหนใช้ปุ๋ยอินทรีย์ส่วนไหนไม่ใช้เพราะขนาดลูก ต้น ใบจะสมบูรณ์กว่า ยิ่งถ้าต้นปาล์มมีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไปยิ่งจะส่งผลผลิตน้อยลง เมื่อทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์แล้วกลับเห็นผลที่ดีขึ้น จึงทำการสต็อกปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเพื่อในอนาคตจะใช้เต็มระบบทั้ง 100 กว่าไร่ เพราะมั่นใจแล้วว่าใช้แล้วเห็นผลจริง”