ธุรกิจโลก

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลากำลังพิสูจน์อิทธิฤทธิ์อภินิหารของ ”ยูทูบ” ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนแจ่มแจ๋วไปทั่วสากลโลก

ย้อนรอยถอยเวลากลับไปไม่เกิน 10 ปี คุณค่าของยูทูบในความรู้สึกนึกคิดของใครต่อใคร เป็นเพียงแค่เวทีรองรับการปล่อยคลิปให้ใครก็ได้ที่อยากรู้อยากดูอยากเห็น สามารถเข้าไปรู้เข้าไปดูเข้าไปเห็นได้ตามอัธยาศัย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นยูทูบ ยังถูกดูหมิ่นดูแคลนเป็นเพียง “สนามเด็กเล่น” ไม่สามารถเป็นที่พึ่งที่หวังในการใช้เป็นเวทีแสวงหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง

ใครหน้าไหนก็ตามที่มุ่งมั่นจะทำมาหากินผูกพันอยู่กับยูทูบ มักจะถูกปรามาสทันทีทันใดว่าสิ้นคิด ขาดสติ หรือ “บ้า”

แต่มีคณะบุคคลกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง กล้าที่จะบ้าในการทุ่มเทความตั้งใจเปิดทีวีบนยูทูบ และเรียกตัวเองว่า “Awesomness TV”

รูปแบบ และเนื้อหาสาระของสิ่งที่ฉายผ่าน Awesomness TV บนยูทูบ มีลักษณะเป็นคลิปวิดีโอความยาว 2-5 นาที ที่บรรจุเนื้อหาประเภทเคล็ดลับความสวยความงาม การพูดคุยตอบโต้กันอย่างกระชับฉับไว ด้วยเนื้อหาที่โดนใจกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก

กระแสนิยมในการติดตามชมรายการของ Awesomness TV บนยูทูบเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งไปเตะตาต้องใจบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง “ดรีมเวิร์คแอนิเมชั่น” ซึ่งมี “สตีเว่น สปีลเบิร์ก” เจ้าของฉายา “พ่อมดแห่งฮอลลีวูด” เข้าอย่างจัง ถึงขั้นมีการนัดหมายพูดคุยซื้อขายกิจการระหว่างกัน

สุดท้าย Awesomness TV กลายสภาพเป็นกิจการในสังกัดดรีมเวิร์คแอนิเมชั่นไปเรียบร้อยโรงเรียนสปีลเบิร์ก โดยกลุ่มผู้ก่อตั้ง Awesomness TV ได้เงินตอบแทนไป 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปรากฏการณ์ซื้อขายกิจการสถานีโทรทัศน์บนยูทูบ ระหว่างค่ายดรีมเวิร์คแอนิเมชั่นกับ Awesomness TV ทำให้บรรดายักษ์ใหญ่ทั้งหลายที่เคยดูถูกดูแคลนและมองข้ามคุณค่าของยูทูบมาตลอด ต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด และท่าทีต่อยูทูบใหม่ทั้งหมด แล้วหันมาให้ความสนใจพัฒนารายการบนยูทูบกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

สารพัดค่ายยักษ์ใหญ่ที่กลับหลังหันแล้วใส่เกียร์เดินหน้าทุ่มเททำรายการบนยูทูบเต็มที่ ได้แก่ วอลท์ดิสนีย์ วอร์เนอร์บราเธอร์ เอทีแอนด์ที คอมแคสท์ ฟู้ดเน็ทเวิร์ค รวมทั้งโปรไซเบนแสทวันมีเดีย ซึ่งเป็นเจ้าพ่อสื่อรายใหญ่ในเยอรมนี

เหตุปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ยูทูบวันนี้ เป็นเวทีที่ทรงอิทธิพล และไม่มีใครกล้าปฏิเสธโดยเด็ดขาดมีอยู่ด้วยกัน 2 ประการ

ประการแรก ยูทูบ มีคนทั่วโลกแวะเวียนเข้าเยี่ยมชมเป็นประจำทุกวัน ไม่น้อยกว่าวันละ 33 ล้านคน

ประการที่สอง ยูทูบ มีคลังรายการที่หลากหลายให้เลือกชมมากมายกว่า 6,000 ล้านชั่วโมง และยังมีรายการเกิดใหม่ถูกเติมเข้าไปเฉลี่ย 100 ชั่วโมง ทุกๆ 1 นาที

นอกเหนือจากนี้ตลาดโฆษณาออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งแน่นอนว่าต้องรวมยูทูบด้วย มีแนวโน้มที่จะขยายตัวแบบก้าวกระโดดจากขนาดตลาดมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2555 มาเป็นประมาณ 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 105,400 ล้านบาท ในปี 2557 นี้

ยูทูบ ยิ่งทรงคุณค่า ทรงอิทธิพล และทรงเสน่ห์มากเท่าใด...กูเกิล ยิ่งเติบใหญ่เกรียง ไกรมากเท่านั้น ในฐานะที่กูเกิล คือผู้ตัดสินใจใช้เงิน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อยูทูบมาครอบครองเมื่อปี 2549 และมีสถานะเป็นเจ้าของยูทูบเต็มตัวในปัจจุบันนี้