รุกตลาดครีมหอยทากสเนลเอท กระตุ้นคนไทยใช้ผลิตเครื่องสำอางค์คนไทยที่มีคุณค่าด้านดูแลบำรุงผิวพรรณสูงกว่าสินค้าต่างชาติ30 เท่าและราคาไม่แพง ด้วยคุณค่าผลงานวิจัย เรื่อง การใช้เมือกหอยทากสายพันธุ์ไทยในอุตสาหกรรมความงาม โดยทีมนักวิจัย คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ครบไลน์ เปิดโปรโมชั่นใหม่จูงใจ ซื้อผลิตภัณฑ์สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงถึง 15,000 บาท ผลักดันยอดขายสินค้าปีนี้100 ล้านบาทและผี2561เพิ่มเท่าตัว 200 ล้านบาท
ศ.ดร.สุพจน์ หาญหนองบัว กรรมการผู้จัดการบริษัท สยาม สเนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าจากเหมือกหอยทาก ภายใต้แบรนด์ Snail8 กล่าวว่า จากภาพรวมมูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางปี 2559 ว่า มีมูลค่า2.8แสนล้านบาท เติบโต 10%เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยในปี2560 คาดว่ามูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางไทยจะเติบโต 6-7% แบ่งเป็นขายในประเทศ 60% ส่งออก40% โดยแบ่งเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 46% , ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม16% , ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับตกแต่งสีสันใบหน้า 16%, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำหอม 3% ประกอบกับขณะนี้กระแสเมือกหอยทากกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องสำอางชื่อดังประเทศหนึ่งของโลก และได้คิดค้นผลิตครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของเมือกหอยทากขึ้น จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า มียอดขายถล่มทลายทั่วโลก ในขณะที่เมืองไทยของมีหอยทากสัญชาติไทยชนิดหนึ่ง ชื่อ “หอยทากนวล” เป็นหอยทากที่พบมากแถบภาคอีสานและภาคเหนือของไทย รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านในแถบอินโดจีน ที่พบหอยทากที่มีเมือกที่อุดมไปด้วยสารธรรมชาติหลากชนิด มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา และช่วยรักษาสิวได้ดี โดยมีสารออกฤทธิ์ต้านเชื้อโรคที่อยู่ในเขตร้อน ทำให้เหมาะกับสภาพผิวของคนไทยและคนเอเชีย
ดังนั้น ทางบริษัทจึงได้นำเมือก “หอยทากนวล” มาทำการศึกษาและวิจัยอย่างเป็นระบบ ผ่านกระบวนการสกัดออกมาได้เป็นเซรั่มเมือกหอยทากบริสุทธิ์ ที่มีความเข้มข้นกว่าตามท้องตลาดทั่วไปถึง 30 เท่า ภายใต้แบรนด์ Snail8 พร้อมได้ขายไลน์สินค้าไปยังครีมบำรุง ครีมกันแดด มาส์กแผ่นบำรุงผิว เป็นต้น โดยปัจจุบันวางจำหน่ายที่ร้านวัตสันทุกสาขา,โอสถศาลา ซึ่งเป็นร้านขายยาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ, วุฒิศักดิ์ คลินิก ทุกสาขา, save drug ทุกสาขา และที่คิงเพาเวอร์ รางน้ำ รวมทั้งยังจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊กของสเนลเอท และลาซาด้า
และในปีที่ผ่านมา บริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 50 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 30 ล้านบาทเป็นการลงทุนสร้างฟาร์ม หอยทากไว้ภายในพื้นที่บริษัทฯเอง ซึ่งฟาร์มของบริษัทฯนั้น จะเป็นฟาร์มแบบกึ่งธรรมชาติ โดยจะมีทั้งโรงรีดเมือก , โรงกรองเมือก และโรงผลิตเมือก ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้จะผลิตในประเทศไทยทั้งหมด จากนั้นจะส่งไปยังโรงงานผลิตที่เกาหลีใต้ เพื่อทำการผลิตออมาเป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์อีกที
“เมื่อปีที่ผ่านมาเราผลิตในแบรนด์สยามสเนล และจำหน่ายภายในจุฬาฯ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี จนทำมาได้ปีกว่า บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในวุฒิศักดิ์ คลินิก ได้เข้ามาร่วมลงทุน และถือหุ้นเป็นสัดส่วน 50% ขณะที่เราซึ่งเป็นกลุ่มผู้เริ่มก่อตั้ง ก็ยังถือหุ้นอยู่สัดส่วน 50%อยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่เข้ามานั้น มีเป้าหมายอยากจะขยายสเนลเอท ไปสู่ตลาดโลก โดยในเบื่องต้นเราได้วางแผนจะเจาะตลาดต่างประเทศ ทั้งประเทศเกาหลี และยุโรป ซึ่งคาดว่าจะทำการขายทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และขายในรูปแบบวัตถุดิบเหมือกหอยทากสกัด เพื่อให้ประเทศนั้นๆนำไปผลิตเป็นเครื่องสำอางเอง ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูในรายละเอียดปลีกย่อยของ อย.ในแต่ละประเทศด้วย อย่างไรก็ตามในขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาและทำข้อตกลงเงื่อนไขในรายละเอียดต่างๆ อยู่”
ศ.ดร.สุพจน์ หาญหนองบัว กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากมีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามา จะทำให้เราสามารถทำแผนการตลาดและขยายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น ในอนาคตยังสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ครบไลน์ นอกจากจะมีซีรั่มแล้ว ก็จะเพิ่มตัวคลีนเซอร์ และกลุ่มสกินแคร์ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาสูตรไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย หรือผลิตภัณฑ์สำหรับบอดี้ได้อีก จากขณะนี้เราจะเน้นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า ซึ่งด้านยอดขาย เมื่อปี 2015 (พศ.2558) ซึ่งยังเป็นการผลิตและจำหน่ายกันเอง เรามียอดขายประมาณ 20 กว่าล้านบาท แต่ในพศ.2559หลังจากมีผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามา เรา ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดมากขึ้น และทำแบรนดิ้ง โดยตั้งเป้ายอดขายปี 2560ไว้ที่100 ล้านบาท และในปีหน้า(2561)เราจะขยายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเป็น 200 ล้านบาท ทั้งนี้ได้จัดให้มีโปรโมชั่นสำหรับผู้ซื้อในช่วงนี้ สามารถนำใบเสร็จลดหย่อนภาษีสูงถึง 15,000 บาท