ปิดตา มหานิยม

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

ปิดตา มหานิยม


เมื่อได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องพระเครื่องมากขึ้น เห็นว่าพื้นฐานการสร้าง "พระเครื่องราง" แห่งอริยสงฆ์แต่ละองค์ มิได้ต่างไปจากความพากเพียรเรียนแบบบทแล้วทดลองซ้ำซาก ณ ภาคปฏิบัติดังว่านักวิทยาศาสตร์ค้นคิดสิ่งประดิษฐ์ของเขาเช่นนี้เราจะมิยกย่องชื่นชมผองสมณาจารย์ ได้อย่างไรกัน จึงวันนี้จำเป็นที่ขยับไปใกล้ชิดพระปิดตาสักหน่อย แล้วค่อยเขยิบอิงพระกริ่งบ้างเพราะการสร้างซับซ้อนและค่อนๆ จะยากลำบากเสียด้วย พระกริ่งสวยๆ พระปิดตาดีๆ แทบไม่มีปรากฏ
บทบาทของพระปิดตาน่าจะมาจากพระมหาสาวกนามขลังคือ พระมหา (สัง) กัจจายนะ ผู้ละลาภ ละรูปยศทั้งหมดทิ้ง ทั้งที่ความจริงท่านปรารถนาพบความสุขสงบแบบนิพพานจึงสาบสังขารตนให้เป็นคนอ้วนพุงพลุ้ย นอนทอดหุ่ยมิยินดียินร้ายยังมีหลายมหาสาวกที่ถูกยกไปเปรียบเทียบทางศีลวัตรเฉกพระมหากัจจายนะ เช่น พระ มหากัสสปะ เป็นเอตทัคคะทางธุดงค์อีกองค์คือ พระมหาเรวัติ น้องคนสุดท้องของ พระสารีบุตร พระพุทธองค์ทรงยกย่องเป็นเอตทัคคะทางอยู่ป่า รวมถึงมหาสาวก ซึ่งนำลาภสักการะมาสู่พุทธคามนาม สิวลี อาจเป็นเพราะท่านมีสัญลักษณ์มักน้อยแทรก คือแบกกลดสมาทานสู่ศานติธรรม (ตามรูป) แม้แต่ พระอุปคุต (มหาสาวกหลังพระพุทธองค์ทรงเสด็จปรินิพพาน) แต่ตำนานพระปิดตาคือ พระมหากัจจายนะนี่แหละครับ อย่าสับสนปนกับพระสังกัจจายน์ในลัทธิมหายาน เพราะจะเป็นพระศรีอาริยเมตตรัยพระพุทธเจ้าองค์ถัดไปของเรา
เราคงจะเคยชินพุทธศิลป์แบบพระปิดตาและมหา (สัง) ขจายน์ ตั้งแต่ยุคขอมรุกมาสู่ลพบุรีจนยุคกรุงศรีอยุธยาที่บ่งความสูงส่งด้านเมตตาเป็นหลัก มาหนักช่วงแผ่นดินรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนปัจจุบัน พระปิดตานั้นมีมากอัคราจารย์แสดงผลงานที่ระบือลือเลื่องทั้งเมืองกรุงจดชนบทชายแดน ใครมีใครแหนหวงยิ่งกว่าดวงใจ ได้ทั้งความขลังเข้มเต็มสุดๆ ได้ทั้งพุทธศิลป์เกินจินตภาพ เลยอยาก ให้รับชม 3 พระปิดตาจาก 3 อัคราจารย์ และ 3 มวลสารละม้ายพระสังกัจจายน์
แบบแรกเป็นของ หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ เนื้อนั้นเป็นผงคลุกรักสีหนักมาทางกะลามะพร้าวตามสูตรเก่า รูปทรงองค์พระบอกอัตลักษณ์ทั้งปวงเหมือนของ หลวงพ่อแก้วแน่วแน่ แต่ถ้าส่องเล็งอย่างเพ่งพินิจหน่อยจะคล้อยมาทางหลวงปู่เอี่ยม สะพานสูงบางพิมพ์ เนื้อก็ปริ่มๆ ใกล้กัน (ด้านหนึกนุ่ม)
แบบสองหักมุมด้วยพระทองคำปิดตาแห่ง วัดกำแพง หลวงพ่อเจียม ตามธรรมเนียมสายตรงจะเป็นเนื้อผงคลุกรัก แต่องค์นี้หักลำใช้ ทองคำ แทนจึงแสนหายากเหลือ
องค์สามเป็นเนื้อผงดังสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว เมืองกาญจน์ โดยมาตรฐานจะมี 2 พิมพ์คือ พิมพ์ ชะลูด กับพิมพ์ พุงป่อง อันต้องลักษณะเป็นองค์สังกัจจายน์ในตัว ซึ่งทั่วๆ ไปของๆ ท่านถือว่าหายาก นอกจากนี้ยังเป็นพระปิดตาเบญจภาคีในสายตาเซียนอีกด้วย
หลวงปู่ยิ้มท่านอิ่มด้วยเมตตาเป็นทั้ง เกจิยาจารย์ ครูผู้ทรงวุฒิปัญญา และ อัคราจารย์ (ครูผู้ยิ่งใหญ่เพราะให้ความรู้เพื่อให้เป็นครูเต็มตัวเต็มหัวใจ) ทว่าในบางพิมพ์ของท่านโดยเฉพาะพิมพ์ชะลูด พุทธลักษณ์จะใกล้ๆ ของ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (บพิตรพิมุข) ถ้าส่องอย่างสุกเอาเผากิน
โปรดพินิจให้ชินตา เพราะว่าต้องจำแนกแยกพิมพ์ทรงองค์พระทุกประเภท โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มิฉะนั้นขั้นตอนผิดพลาดจะบังเกิด แล้วเปิดช่องให้คนชั่วแทรกตัวมายืนยื่นหน้าสลอน หลอกหลอนเราได้ทุกที่ทุกทีไป
พระปิดตา ยังไม่จบครับ ฉบับหน้ายังเป็นเรื่องของเนื้อทองคำแห่งพระภควัมบดี (ปิดตา) ซึ่งหายากและมากนิยม
ผมแย้มพอล่อให้ติดตามสัก 2-3 องค์ เช่น ยันต์ยุ่งปู่ทับกับปู่เอี่ยม (อีกพิมพ์) และปู่นาคสุดสวยแห่งวัดห้วยจระเข้ ฯลฯ เสน่ห์ของพระปิดตาไม่ว่าจะทำจากโลหะหรือวัสดุอื่น จักยืนยงตรงศิลปะการสร้าง การวางอักขระยันต์ที่มั่นแม่นและมั่นเหมาะ จำเพาะของแต่ละพิมพ์และแต่ละองค์
ผมนะหลงใหล (การส่อง) ยิ่งส่องยิ่งเห็นการท่องไปในจักรวาล เรื่องพระเครื่องรางต่างๆ ทั้งที่ความรู้ยังแค่หางอึ่ง
จึงต้องท่องต่อ


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ