Toggle navigation
วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
"ครูบาญาณทิพย์" นักบุญแห่งดินแดนพระร่วงเจ้า (1)
"ครูบาญาณทิพย์" นักบุญแห่งดินแดนพระร่วงเจ้า (1)
วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556
Tweet
"พระ ณ สยาม" ยังคงพักยกเรื่อง ราวเกี่ยวเนื่องกับพระเครื่องและบุคคลสำคัญๆ เพราะเรายังคงเกาะติดเรื่องราว ของวัด สถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธ-ศาสนิกชนยามเกิดความทุกข์ หรือต้อง การความสงบทางด้านจิตใจและความคิด ฉบับนี้เรายังคงแอ่วเหนือ เยือนจังหวัดสุโขทัยถิ่นกำเนิดภาษาไทย และประเพณี ลอยกระทง ซึ่งบังเอิญได้รับคำแนะนำดีๆ จากประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีให้ไปกราบนมัสการเพื่อขอพรจากพระพุทธรูปทองคำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใครก็ตามหากได้มีโอกาสเดิน ทางไปสุโขทัยขอแนะนำให้ลองแวะเวียน ไปที่วัดแห่งนี้เพื่อกราบสักการะบูชาขอพร วัดแห่งนี้ก็คือ "วัดพิพัฒน์มงคล" ซึ่งอยู่ ณ ตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ปัจจุบันมี "พระครูวรคุณประยุต" หรือ "หลวงพ่อพิพัฒน์มงคล" หรือที่ญาติ โยมมักเรียกว่า "ครูบาญาณทิพย์" เป็นเจ้าอาวาส
แต่ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวดีๆ ขอนำผู้อ่านไปทำความรู้จักกับท่านเจ้าอาวาสวัดพิพัฒน์มงคล "นักบุญแห่งดินแดนพระร่วงเจ้า" ที่หลายคนรู้จักกันในนามของ "หลวงพ่อพิพัฒน์มงคล" หรือ "ครูบาญาณทิพย์" ท่านบรรพชาตั้งแต่เป็นสามเณรกระทั่งครบอายุ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2521 จึงได้เข้ารับการอุปสมบท เป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดพระคงฤาษี อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยมีท่านเจ้าคุณพระราชสุตาจารย์ วัดจามเทวี เจ้าคณะจังหวัดลำพูนในสมัยนั้นเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสภณธีรคุณ (พระเทพญาณเวที) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองและประธานสภาเปรียญเป็นพระกัมมวาจาจารย์ พระครูประสาทสึตาคม (พระเทพ มหาเจติยาจารย์) เจ้าคณะอำเภอในสมัยนั้นเป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า "คุณยุตฺโต" แปลว่า "ผู้ประกอบด้วยคุณงามความดีไม่มีที่สิ้นสุด"
ภายหลังจากการบรรพชาหลวงพ่อฯได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ มากมาย เช่น ศึกษาธรรมเบื้องแรกกับครูบาประเสริฐ ฐานจาโร เจ้าอาวาส วัดมะขามหลวง, เรียนมูลกรรมฐานและนักธรรมในสำนักของครูบาอาจารย์ ที่เชียงใหม่, เรียนกัมมัฏฐานจากครูบาพรหมมา พฺรหมฺจกฺโก (พระสุพรหมญาณ) หรือที่รู้จักกันในนามของหลวง พ่อพุทธบาทตากผ้า และพระครูเวฬุวันพิทักษ์ (ครูบาเขื่อนคำ อตฺตสนฺโต), ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ครูบาชัยวงศา ณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน, ศึกษาธรรมที่วัดพระธาตุ เจ้าหริภุญชัย, ปฏิบัติธรรมที่วัดพระคงฤาษีเป็นเวลา 4 พรรษา ระหว่างนั้นจึง ได้ติดตามครูบาอาจารย์จาริกแสวงบุญ ไปตามที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงต่างประเทศด้วย
"หลวงพ่อพิพัฒน์มงคล" เล่าถึงปฐมเหตุแห่งการสร้างวัดพิพัฒน์มงคลให้เราฟังว่า "ทุ่งเสลี่ยมเป็นกลุ่มชุมชนใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งขยายตัวมาจากเมืองเถิน ชุม ชนโบราณที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ล้านนาค่อนข้างสูง วิถีของผู้คนทุ่งเสลี่ยม ได้อาศัยร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนาเป็นหลักในการดำรงชีวิตจึงทำให้กลุ่มชุมชนแห่งนี้มีวัดวาอารามมากมาย
"เมื่อปีพ.ศ.2525 ขณะที่อาตมาได้ออกจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่วิเวกต่างๆ กระทั่งมาถึงอำเภอทุ่งเสลี่ยมได้ปักกลดปฏิบัติธรรมอยู่ในบริเวณวัดร้างกลางทุ่งบ้านท่าชุม (วัดพิพัฒน์มงคลในปัจจุบัน) ครั้นชาวบ้านในท้องถิ่นมาพบจึงได้พากันมาทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์จากอาตมา นับวันก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นตามลำดับ ผู้นำชุมชนที่สูงอายุในฐานะผู้เฒ่าผู้แก่พร้อมด้วยศรัทธาสาธุชนทั้งหลาย เห็นวัตรปฏิปทาน อันสงบน่าเลื่อมใสของอาตมาจึงได้อาราธนาให้พักจำพรรษาอยู่ปฏิบัติธรรม โปรดชาวบ้านต่อไป เมื่อออกพรรษาแล้วอาตมาก็แสดงความจำนงที่จะเดินธุดงค์ต่อไปตามอัธยาศัยที่น้อมไปในทางเนกขัมปฏิบัติ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันมาขออาราธนาให้อาตมาอยู่ต่อ โดยจะช่วยกันสร้างวัดใหม่ในบริเวณวัดร้างกลางทุ่งบ้าน ท่าชุมขึ้นมา ให้เป็นที่พักจำพรรษาถาวรสืบต่อไป"
ท่านเจ้าอาวาสวัดพิพัฒน์มงคล ยังได้เล่าให้เราฟังต่อว่าคำอาราธนาของชาวบ้านที่บริสุทธิ์ใจทำให้ท่านจำต้องแบ่ง รับแบ่งสู้กระทั่งเกิดปรากฏเหตุการณ์อัศจรรย์ในตอนกลางคืนที่ถือเป็นมูลเหตุต่อการตัดสินใจในเวลาต่อมา "ขณะที่อาตมากำลังใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจอยู่นั้น อาตมาได้เจริญสมาธิจิต เกิดนิมิต ไปว่ามีชายฉกรรจ์ 2 ท่าน แต่งกายคล้าย กับทหารโบราณสมัยสุโขทัยเข้ามากราบ นมัสการอาตมา บอกว่าท่าน คือขุนงาม เมือง และขุนเรืองอังวะ เป็นหัวหน้าทหารผู้รักษาด่านแห่งนี้อยู่ รับอาสาว่าหากอาตมาคิดจะสร้างวัดในบริเวณ นี้ ก็จะถวายความช่วยเหลือเต็มที่ พ่อ ขุนอังวะยังได้ปรารภว่าถ้าท่านรับ ปากจะมีคนมาช่วยท่านเอง ผู้ที่จะมา ช่วยท่านได้ เขาจะพบท่านด้วยตนเอง จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ท่านเหล่านั้นคือบริวารเก่าของท่านในอดีตชาติก่อนหลายร้อยปี เขาเหล่านั้น ได้เกิดและบำรุงรักษาสถานที่แห่งนี้ทั้งนั้น จากนั้นภาพในนิมิตก็ค่อยรางเลือนไป จึงเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้อาตมาตัดสินใจบูรณะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ขึ้นมา ในฐานะเป็น "สำนักปฏิบัติธรรมพัฒนาพุทธานิมิต"
เรื่องราวของ "วัดพิพัฒน์มงคล" และ "หลวงพ่อทองคำ" ยังไม่จบ อด ใจไว้รอตอนหน้ายังมีสาระและเรื่องราว ที่รับประกันว่าน่าสนใจ และน่าติดตาม อย่างแน่นอน แล้วพบกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ