Toggle navigation
วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ท่องเมืองราชธานีเก่า ไหว้หลวงพ่อทองคำ วัดพิพัฒน์มงคล (จบ)
ท่องเมืองราชธานีเก่า ไหว้หลวงพ่อทองคำ วัดพิพัฒน์มงคล (จบ)
วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556
Tweet
จบไปแล้วหนึ่งตอนกับเรื่องราวดีๆ ของ วัดพิพัฒน์มงคล ซึ่งตั้งอยู่ ณ ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย วัดที่มีเรื่องราวประวัติความเป็นมายาวนาน ฉบับที่แล้วเราได้พาผู้อ่านไปทำความรู้จักเจ้า อาวาสและประวัติบางเสี้ยวบางตอนของวัดเริ่มจากการที่ท่านเจ้าอาวาสจาริกธุดงค์มาบริเวณดังกล่าวกระทั่งเกิดนิมิตจนเป็นที่มาของการสร้างสำนักปฏิบัติธรรมขึ้น จากนั้นจึงได้เริ่ม ทำการพัฒนาวัด ผลจากการพัฒนาใน ครั้งนั้นท่านยังได้เล่าให้เราฟังว่าทำให้มีการขุดพบพระพุทธรูปปางต่างๆ พระ- บรมธาตุโบราณวัตถุหลากหลายชนิด ที่บรรจุอยู่ในกรุพระเจดีย์วัดร้างแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญก็คือพบลูกแก้ว สีขาวใสดวงหนึ่ง อาตมาจึงได้เก็บไว้ประจำตัว จากนั้นจึงได้ทำการก่อพระเจดีย์ใหม่ครอบบนฐานพระเจดีย์โบราณ องค์เดิม นำพระบรมสารีริกธาตุและโบราณวัตถุที่สูงค่าเข้าบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ตามเดิม
"พระครูวรคุณประยุต" หรือ "หลวงพ่อพิพัฒน์มงคล" หรือที่ญาติ โยมมักเรียกว่า "ครูบาญาณทิพย์" ยังได้เล่าความเป็นมาของวัดต่อให้ฟังว่าเมื่อสร้างสำนักปฏิบัติไปได้ 2 ปี เริ่มมีผู้คนมาศรัทธาเลื่อมใส ท่านจึงคิดที่จะยกฐานะวัดร้างกลางทุ่งแห่งนี้ขึ้นเป็นวัดให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ แต่ติดที่วัดร้างนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ เป็นหลักฐานเลย กระทั่งเมื่อความนี้ทราบถึง สุพิน พิพัฒน์เดชพงษ์ ผู้ถือครอง กรรมสิทธิ์ที่นาติดกับวัดร้างแห่งนี้จึงได้แสดงเจตนาอันเป็นกุศลน้อมถวายที่ดินจำนวน 11 ไร่ ให้กับพระคุณเจ้า เพื่อดำเนิน การตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการสร้างวัดและตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ต่อเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2528 รมว. กระทรวงศึกษาธิการจึงมีประกาศตั้งสำนัก ปฏิบัติธรรมพัฒนาพุทธานิมิต เป็นวัดในพระพุทธ ศาสนา นับถึงปัจจุบันนี้วัดแห่งนี้มีอายุได้ 28 ปี นับรวมกับอายุของวัดร้างได้ประมาณ 881 ปี ในปัจจุบันมีเนื้อที่เพิ่มขยายเป็น 119 ไร่"
"เจ้าอาวาสวัดพิพัฒน์มงคล" ยังได้เล่าถึงปาฏิหาริย์ของพระพุทธสุโขโพธิ์ทอง หรือ หลวงพ่อทองคำ มงคลศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ประจำภายในวัดว่าในวันที่ขุด พบพระโบราณตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น พระพุทธรูปองค์อื่นๆ สามารถยกขึ้นออกมาได้หมดทุกองค์ เว้นแต่พระพุทธรูปที่ฉาบด้วยรักสีดำองค์เดียวเท่านั้นที่ยกไม่ขึ้น อาตมากับคณะศิษยานุศิษย์จึงได้ทำพิธีขอขมาและอาราธนาด้วยดอกไม้ พวงมาลัย และธูปเทียนแล้วจึงยกขึ้นอัญเชิญออกมาได้ ในขณะที่อัญเชิญหลวงพ่อทองคำและพระพุทธรูปทั้งหมด ขึ้นมาแล้วได้นำเข้าไปประดิษฐาน ณ ศาลา พิพิธภัณฑ์ ไฟฟ้าที่ติดอยู่ก็กะพริบเป็น สัญญาณถึง 3 ครั้ง ถือเป็นเหตุอัศจรรย์ ประการหนึ่งที่ปรากฏขึ้น ทุกครั้งที่ ทางวัดไม่มีปัจจัยจะสร้างวัด หากได้จุดธูปอธิษฐานขอพรก็จะสำเร็จทุกครั้งไป
นอกจากนี้ ปาฏิหาริย์แห่งหลวงพ่อทองคำยังได้ปกแผ่ปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวต่างประเทศอีกมากมาย อาทิสองสามีภรรยาชาวเยอรมัน "ลินเซอร์ และเมอร์น่า" ที่มากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทองคำ ปรากฏว่ามีแสงระยิบระยับเต็มวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ จึงทำให้ชาวเยอรมันเกิด ความเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก ได้บูชาเหรียญ หลวงพ่อทองคำรุ่นแรกไปเป็นจำนวนมาก พอกลับถึงเยอรมันได้นำเหรียญหลวงพ่อทองคำไว้ในรถ ปรากฏว่ารถเกิดอุบัติเหตุตกเขาโดยที่ชาวเยอรมันไม่ได้รับอันตราย ใดๆ และปรากฏว่าเหรียญหลวงพ่อทอง คำตกอยู่ในกระเป๋าเสื้อ หลังจากทั้งสองคนได้กลับมาเมืองไทยพวกเขาได้เดินทางไปกราบขอพรจากท่านอีกครั้ง
แม้กระทั่งหลวงพ่อพิพัฒน์มงคล ยังได้รับพุทธานุภาพแห่งหลวงพ่อทองคำ จึงสามารถสร้างอารามแห่งนี้ได้สำเร็จด้วยระยะเวลาไม่นาน ใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วมาจาก สาธุชนผู้มีจิตเลื่อมใสต่อองค์หลวงพ่อทอง คำที่ต่างได้รับอานิสงส์แห่งพรจนประสบความสำเร็จแล้วได้มาร่วมกันทำบุญ ท่านใดสนใจอยากจะหาบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลสามารถไปบูชาองค์จำลองของท่านได้ที่วัด ซึ่งยังพอหาได้อยู่
สถานที่สำคัญอีกแห่งที่เจ้าอาวาสวัดพิพัฒน์มงคล ได้เล่าให้เราได้ฟังนั่นคือความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ ในส่วนพระธาตุรากขวัญว่าเมื่อ พ.ศ.2526 ได้เดินทางจาริกแสวงธรรมร่วมกับคณะของ อาจารย์ หลวงพ่อพระครูเวฬุวันพิทักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ในครั้งนั้นได้เข้ารับพระบรมสารีริกธาตุ (พระธาตุรากขวัญ) ขององค์สม เด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากพระหัตถ์ของสมเด็จพระมหานายกะ สมเด็จพระสังฆราชฝ่ายสยามวงค์ ในนครแคนดี้ วัดบุพพาราม ประเทศศรีลังกา โดยสมเด็จพระสังฆราชศรีลังกาได้ประทานให้ในท่ามกลางสงฆ์ทั้งฝ่ายไทยและศรีลังกา แล้วได้นำเสด็จกลับมาประดิษฐานไว้ ณ ที่วัดสุวรรณวิหาร อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
"หลวงพ่อพระครูเวฬุวันพิทักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า ได้ดำริว่าควรจะนำประดิษฐานไว้ที่วัดพิพัฒน์มงคล เพราะได้สร้างขึ้นใหม่ โดยอาตมาเป็นผู้ให้การสนับสนุนส่งเสริมมา ตลอด แต่ก่อนหน้านี้ ทางวัดประดิษฐาน ไว้ในหอพระทองคำ มาบัดนี้ อาตมาพร้อม ด้วยคณะศิษยานุศิษย์ของวัดได้ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างพุทธวิหารลายคำ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระรากขวัญ ไหปลาร้า) นี้ และพร้อม ที่จะเปิดโอกาสให้ท่านสาธุชนทุกท่านได้เข้าสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อไป"
ผู้ที่สนใจอยากจะไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทองคำ ณ วัดพิพัฒน์มงคล ก็สามารถเดินทางไปได้ โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่ง เสลี่ยม จ.สุโขทัย 64150 หรือสอบ ถามเส้นทางได้ที่ 055-659072
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ