กสิกรไทยจับมือสยามฯ ยามาฮ่าหนุนอุตฯ ดนตรีปล่อยกู้เปิดแฟรนไชส์ โรงเรียนดนตรียามาฮ่าวงเงินสู งสุด 70% ของมูลค่าการลงทุน โดยไม่ต้องมีประสบการณ์และหลั กประกัน พร้อมสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจร้ านขายเครื่องดนตรี รับสิทธิ์ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำ ประกันเพียง 1.25% และวงเงินกู้เบิกเกินบัญชีหลั กประกันต่ำสุด 30% คาดตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อธุ รกิจดนตรียามาฮ่าในปีนี้ไว้ที่ 500 ล้านบาท
นายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่ องดนตรี-เครื่องเสียงคุณภาพระดั บโลก และเป็นผู้นำหลักสูตรดนตรีศึ กษายามาฮ่ารายแรกของเมื องไทยมากว่า 51 ปี โดยให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่ อธุรกิจแฟรนไชส์ (K-SME Franchise Credit) เพื่อให้เงินทุนสำหรับผู้ที่ สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจโรงเรี ยนดนตรียามาฮ่า ด้วยวงเงินสินเชื่อสูงสุด 70% ของมูลค่าการลงทุน สามารถผ่อนชำระได้นานถึง 9 ปี โดยผู้ขอสินเชื่อไม่จำเป็นต้ องมีประสบการณ์ ไม่ต้องมีหลักประกัน ก็สามารถขอสินเชื่อได้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนสินเชื่อธุ รกิจร้านขายเครื่องดนตรีด้วยสิ ทธิพิเศษวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี ใช้หลักประกันต่ำสุดเพียง 30% และคิดค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำ ประกันเพียง 1.25% ซึ่งจะช่วยให้ร้านขายเครื่ องดนตรีลดต้นทุนและเพิ่มสภาพคล่ องให้กับธุรกิจ โดยธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเพื่ อธุรกิจแฟรนไชส์ดนตรียามาฮ่ าในปีนี้ไว้ที่ 500 ล้านบาท
ปัจจุบันผู้ปกครองจะสนับสนุนให้ บุตรหลานได้เรียนรู้เรื่องดนตรี เพิ่มเติม เนื่องจากเป็นการพัฒนาด้านอีคิ วและสามารถประกอบเป็นอาชีพได้ ในขณะที่สถาบันสอนด้านดนตรีที่ มีคุณภาพมาตรฐานยังมีจำกัดทำให้ โรงเรียนสอนดนตรีที่ดียังมี แนวโน้มที่จะเติบโตได้ โดยเฉพาะโรงเรียนสอนดนตรีรู ปแบบแฟรนไชส์ที่มีหลักสู ตรและการจัดการที่มีคุณภาพได้ มาตรฐานสากลจะมีโอกาสเติบโตได้ สูงกว่าโรงเรียนสอนดนตรีทั่วไป แม้ต้องใช้เงินลงทุนแห่ งละประมาณ 5 ล้านบาท แต่โดยเฉลี่ยก็สามารถคืนทุนได้ เร็วภายใน 3-5 ปี
ธุรกิจแฟรนไชส์การศึกษาเป็นกลุ่ มธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิ ยมติด 1 ใน 3 ของประเทศไทยและยังมีการเติ บโตอย่างต่อเนื่องด้วยนโยบายด้ านการศึกษาที่เป็นรูปธรรมของรั ฐบาล เช่น ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สนับสนุนให้บุตรหลานเรียนเพิ่ม เสริมทักษะในด้านต่าง ๆ ทั้งวิชาการ ศิลปะ รวมถึงดนตรี ส่งผลให้โรงเรียนหรือสถาบั นกวดวิชาแขนงต่าง ๆ เติบโตสูงถึง 17.25% รวมถึงสถาบันสอนดนตรีที่ได้รั บความนิยมมากที่สุด โดยครองส่วนแบ่งในตลาดสถาบั นกวดวิชาสูงสุดถึง 40% ซึ่งในปีนี้คาดว่าตลาดสถาบั นสอนดนตรีจะเติบโตได้อีก 16-18%
นายอัครนันท์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจที่ อยู่ในเครือข่ายแฟรนไชส์กว่า 90,000 ราย เกิดใหม่วันละ 20 แห่ง และจากการศึกษาของ สสว.และฐานข้อมูลเอสเอ็มอีคาดว่ าในปีนี้จะมีจำนวนผู้ประกอบธุ รกิจแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 850 รายและตลาดแฟรนไชส์จะมีมูลค่ าประมาณ 200,000 ล้านบาท
ด้าน ดร.พีรวัฒน์ ชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นถึงความต้ องการของลูกค้าที่สนใจลงทุนในธุ รกิจเครื่องดนตรีรวมถึงธุรกิ จโรงเรียนดนตรียามาฮ่า จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการเพื่อสนองตอบความต้ องการของลูกค้าทุกระดับ สำหรับโรงเรียนดนตรียามาฮ่ามีจุ ดมุ่งหมายที่จะก้าวไปสู่ความเป็ นเลิศด้านดนตรีศึ กษาของประเทศไทย โดยปัจจุบันโรงเรียนดนตรียามาฮ่ าถือเป็นแบรนด์สถาบันดนตรีชั้ นนำของไทยที่ได้รับความนิ ยมจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเครื่องดนตรีของยามาฮ่ าซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพก็ เป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้ นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ในปี 2560 บริษัทตั้งเป้ายอดขายสินค้าเครื่ องดนตรีทุกประเภทอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท และโรงเรียนดนตรียามาฮ่าอยู่ที่ 150 ล้านบาท ขณะนี้สามารถขยายธุรกิจโรงเรี ยนดนตรียามาฮ่า ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 100 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่กรุ งเทพมหานครและปริมณฑล 50 แห่ง และต่างจังหวัด 50 แห่ง สามารถผลิตนักเรียนได้ปีละกว่า 30,000 คน โดยในปีนี้คาดว่าจะมียอดนักเรี ยนเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งการร่วมมือกับธนาคารกสิ กรไทยในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่ อธุรกิจแฟรนไชส์โรงเรียนดนตรี ยามาฮ่าจะช่วยให้บริษั ทสามารถขยายเครือข่ายโรงเรี ยนและเพิ่มยอดขายเครื่องดนตรี ได้แบบก้าวประโดด