‘แพทย์’ เตือน ต้องดูแลให้ดี “แผลเท้าเบาหวาน” เสี่ยงถูกตัดขาได้

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2563

‘แพทย์’ เตือน ต้องดูแลให้ดี “แผลเท้าเบาหวาน” เสี่ยงถูกตัดขาได้


แผลเท้าเบาหวานยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามและอาจคิดว่าทำแผลเองได้ที่บ้านแต่รู้หรือไม่ว่าแผลเท้าเบาหวานอาจมีความเสี่ยงติดเชื้อและเกิดการลุกลามจนนำไปสู่การสูญเสียขาได้ในที่สุดหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

นายแพทย์ศุภชัย จันทร์วิทัน ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านหลอดเลือด โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่จะมีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงซึ่งภาวะน้ำตาลในเลือดจะส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ฉะนั้นยิ่งน้ำตาลในเลือดสูง ระบบภูมิคุ้มกันก็ยิ่งลดลงส่งผลให้มีการติดเชื้อง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ โดยหลักการของโรคเบาหวาน มักจะมีภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้เส้นประสาทเสื่อม จนเกิดอาการชาที่มือและเท้า ดังนั้น เมื่อมีอาการชาที่เท้า ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวเมื่อเกิดแผล เนื่องจากอยู่ในจุดที่มองไม่เห็น ทำให้ไม่ได้มีการดูแลตั้งแต่ต้น จนเกิดการติดเชื้อและลุกลามได้ง่ายกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดเสื่อมได้อีกด้วย  เพราะฉะนั้น ในผู้ป่วยที่มีแผลเท้าเบาหวาน สิ่งแรกที่ต้องดูคือผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดร่วมด้วยหรือไม่ หากไม่มีปัญหาหลอดเลือด การรักษาแผลจะทำได้ง่ายกว่า แต่หากมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดร่วมด้วย  การรักษาแผลจะมีความสลับซับซ้อน เนื่องจากกระบวนการการหายของแผลจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มีเลือดไปเลี้ยงเพียงพอ ไม่มีการติดเชื้อ และมีสภาพแวดล้อมของแผลที่เหมาะสม 

ในกรณีที่มีแผลเท้าเบาหวานร่วมกับมีปัญหาหลอดเลือด ในภาวะนี้ควรได้รับการรักษาปัญหาหลอดเลือด เพื่อเปิดให้เลือดได้ไหลมาเลี้ยงแผลให้ได้มากที่สุด โดยวิธีการเปิดหลอดเลือดที่อุดตัน (Revascularization) ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการรักษา มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงแผลได้ดีขึ้น โดยวิธีการซ่อมหลอดเลือดหลัก ๆ ได้แก่ การทำบายพาสหลอดเลือด, การใส่สายสวนหลอดเลือด เพื่อทำบอลลูนขยายจุดที่ตีบหรือตัน นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษาเพิ่มเติม เช่น การอบออกซิเจน หรือการทำไฮเปอร์แบริค (Hyperbaric oxygen therapy) การให้สเปรย์ออกซิเจน และการให้ยาในเรื่องของสเต็มเซลล์ เป็นต้น โดยจุดประสงค์ของการรักษาแผลเท้าเบาหวาน คือการเก็บรักษาเท้าเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเดินได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นหากเข้ารับการรักษาตั้งแต่แรก และต่อเนื่อง จะทำให้ลดโอกาสการติดเชื้อและลุกลามไปจนถึงกระดูกที่จะนำไปสู่การตัดเท้าได้

ปกติแผลทั่ว ๆ ไป มักจะหายเองได้ภายใน 7 -14 วัน แต่หากเกินกว่านั้นหรือรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรทำแผลเอง ควรรีบมารักษากับแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากแพทย์จะสามารถทำแผลโดยปราศจากเชื้อ ควบคุมการติดเชื้อ และประเมินความรุนแรงการติดเชื้อ ขนาดแผล และปัญหาหลอดเลือดของผู้ป่วย ทำให้ลดโอกาสการตัดเท้าที่เกิดจากการติดเชื้อรุนแรงได้

 

 




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ