แพทย์ แนะ แก้ปัญหาสายตาด้วยเทคโนโลยี ... ลดเสี่ยงติดโควิด-19 ผ่านดวงตา

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563

แพทย์ แนะ แก้ปัญหาสายตาด้วยเทคโนโลยี ... ลดเสี่ยงติดโควิด-19 ผ่านดวงตา


เนื่องเชื้อไวรัส COVID-19 สามารถติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ทั้งการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของต่อจากผู้ป่วย COVID-19 แล้วมาจับใบหน้า ปาก จมูก และดวงตาของตัวเอง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ เนื่องจากต้องใช้มือสัมผัสทั้งคอนแทคเลนส์และดวงตา หากล้างมือไม่สะอาดพอก็อาจได้รับเชื้อโรคดังกล่าวผ่านทางดวงตาได้ หรือแม้แต่การใส่แว่นสายตาก็ต้องใช้มือจับและขยับแว่นบ่อย ก็เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคเช่นกัน

พญ.อารีนันท์ วิสมิตะนันท์ จักษุแพทย์ประจำศูนย์ตา โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นเรื่องที่ทุกควรควรตระหนักให้มาก โดยเฉพาะการล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสบริเวณใบหน้าของตัวเอง โดยเฉพาะก่อนใส่แว่นตาและคอนแทคเลนส์ แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีช่วยในการแก้ปัญหาภาวะสายตาผิดปกติหลากหลายวิธี เพื่อลดปัญหาการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคอื่น ๆ ด้วย โดยเทคโนโลยีการรักษาความผิดปกติของสายตาที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการสวมแว่นตาหรือใส่คอนแทคเลนส์ ประกอบด้วยการทำ พีอาร์เค (PRK: Photorefractive Keratectomy) การรักษาภาวะสายตาผิดปกติแบบไม่ตัดแยกชั้นกระจกตา เหมาะกับผู้ที่มีตาแห้ง หรือกระจกตาบาง โดยจักษุแพทย์จะลอกผิวกระจกตาชั้นบนด้วยอุปกรณ์หรือสารเคมี แล้วใช้เครื่องเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ยิงเลเซอร์ความเร็วสูงเพื่อปรับความโค้งของกระจกตา จากนั้นปิดแผลด้วยคอนแทคเลนส์ เมื่อผิวกระจกตาด้านบนปิดสนิทดังเดิมจึงนำคอนแทคเลนส์ออก ,การทำ เลสิก คือการรักษาภาวะสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง โดยแยกชั้นกระจกตาด้านบนขึ้นด้วยเครื่อง Microkeratome จากนั้นใช้เครื่องเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ปรับเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาในชั้น แล้วจึงปิดผิวกระจกตาลง สุดท้ายคือการทำ เฟมโตเลสิก หรือเลสิกแบบไร้ใบมีด เป็นเทคโนโลยีการทำเลสิกที่ใช้เลเซอร์ทุกขั้นตอน ตั้งแต่แยกชั้นกระจกตาด้วยเฟมโตเซคเคิลเลเซอร์ ปรับความโค้งกระจกตาด้วยเครื่องเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำ ปลอดภัย และสบายตามากขึ้น อีกทั้งยังทำให้แผลหายเร็ว ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น

“การรักษาภาวะผิดปกติของสายตาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของจักษุแพทย์เท่านั้น เพราะการรักษาแต่ละแบบจะมีข้อจำกัดแตกต่างกัน อย่างวิธีพีอาร์เคเหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาผิดปกติไม่เกิน 500 แต่จะเจ็บแผลหลังรับการรักษาประมาณ 3 วัน เมื่อเปิดแผลแล้วการมองเห็นจะยังเป็นภาพมัว 2 สัปดาห์ ก่อนจะค่อย ๆ ชัดขึ้นภายใน 1 เดือน ในขณะที่การทำเลสิกและเฟมโตเลสิกสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติในวันถัดไปหลังเข้ารับการรักษา แต่เลสิกจะไม่เหมาะกับผู้ที่กระจกตาบาง กระจกตามีขนาดหรือความโค้งผิดปกติ รวมถึงคนที่ดวงตาเล็กเกินไป”

หมอ บอกต่อว่า การรักษาภาวะสายตาผิดปกติด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์นั้น ไม่สามารถคงสภาวะสายตาให้เป็นปกติได้ตลอดไป เพราะสายตาจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกตามอายุที่มากขึ้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่อาจกระตุ้นให้สายตาผิดปกติก่อนวัยอันควร นั่นคือการใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเลต มากเกินไป

ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้หรือปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสม เช่น พักสายตาจากการจ้องจอทุก ๆ 15 นาที เพื่อป้องกันดวงตาอ่อนล้า ตัวมัว และสายตาผิดปกติ นอกจากนี้ควรสังเกตตัวเองเป็นประจำ หากมีอาการตาล้า ปวดเบ้าตา ตามัวเฉียบพลัน เคืองตา ตาแห้ง หรือมีน้ำตาไหลมากขึ้น ค่าสายตาคลาดเคลื่อนหรือระดับสายตาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความดันตาสูงผิดปกติ เห็นจุดดำตรงกลางหรือมีเงามืดในลานสายตา ตลอดจนเห็นแสงสว่างหรือจุดดำลอยไปมาตามการกลอกตา ควรต้องรีบพบแพทย์เพราะอาการเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคต่าง ๆ ทำสามารถทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ ดังนั้น การพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะช่วยคัดกรองและป้องกันปัญหาโรคทางตาได้

 

 




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ