ปลดล็อค ... โรคนิ้วล็อค สำหรับสายโซเชียล

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

ปลดล็อค ... โรคนิ้วล็อค สำหรับสายโซเชียล


โรคนิ้วล็อคหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษา อาจทำให้ปลอกเส้นเอ็นนิ้วเสียหายถาวร ปัจจุบันแพทย์สามารถรักษาด้วยเทคนิคการสะกิด แผลเล็ก เจ็บน้อย ใช้เวลาเพียง 5 นาที เท่านั้น

นพ.นรฤทธิ์ ล้วนจำเริญ แพทย์เวชศาสตร์ โรงพยาบาลธานี เปิดเผยว่า โรคนิ้วล็อคเกิดจากปลอกหุ้มเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณนิ้วอักเสบและหนาขึ้น ทำให้เอ็นที่อยู่ภายในไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ตามปกติ มักเกิดกับนิ้วโป้ง นิ้วกลาง และนิ้วนาง หรืออาจเป็นพร้อมกันหลายนิ้ว หรือนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง เป็นพร้อมกัน สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการนิ้วล็อค ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมหรือกิจกรรมที่ใช้มือทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น การถือหรือแบกของหนักเป็นเวลานาน ใช้อุปกรณ์ที่ต้องออกแรงกดต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งการใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการนิ้วล็อคได้ ซึ่งสามารถสังเกตุเบื้องต้นได้จากการที่โคนนิ้วปวดบวมตึง ข้อต่อนิ้วติดขัดในขณะเหยียดหรืองอ มักพบบ่อยในกลุ่มคนที่มีอายุ 40 – 60 ปี และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย นอกจากนี้ นิ้วล็อคยังเกิดจากโรคที่ก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณเนื้อเยื่อที่มือด้วย เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เบาหวาน โดยอาการของโรคมักปรากฎมากในช่วงตื่นนอนตอนเช้าหรือตอนที่ใช้งานมือหนักต่อเนื่อง

ถ้ามีอาการข้อต่อบริเวณนิ้วแข็ง ติดขัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย ส่วนการรักษาอาการนิ้วล็อคนั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง โดยอาการในระยะแรกสามารถรักษาได้ด้วยการกินยา ทำกายภาพบำบัด ฉีดยาสเตียรอยด์ ซึ่งจะได้ผลดีในระยะ 4 - 6 เดือนแรก ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมแบบเดิม ๆ และพักการใช้มือให้เพียงพอด้วย แต่หากรักษาด้วยวิธีดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัด”

นพ.นรฤทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการรักษาโรคนิ้วล็อค ปัจจุบันแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษ พร้อมด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ โดยฉีดยาชาที่มือแล้วสอดเข็มเข้าไปบริเวณโคนนิ้วที่มีอาการนิ้วล็อค จากนั้นใช้ปลายเข็มสะกิดปลอกหุ้มเอ็นนิ้ว ตัดปลอกหุ้มเส้นเอ็นที่รัดเส้นเอ็นให้ขาดออกจากกันเหมือนการผ่าตัดปกติ ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 5 นาที และสามารถโดนน้ำได้ตามปกติหลังครบ 24 ชั่วโมง ในขณะที่การผ่าตัดแบบเดิมต้องเปิดแผล ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง และห้ามแผลโดนน้ำนาน 10 - 14 วัน ทั้งนี้ นิ้วที่ผ่านการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวแล้วจะไม่กลับมาเป็นซ้ำ แต่หากยังไม่หยุดพฤติกรรมเสี่ยงก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดนิ้วล็อคกับนิ้วอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รักษา

“หากมีอาการนิ้วล็อคอย่าปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรัง เพราะอาจทำให้ปลอกเส้นเอ็นเสียหายถาวร แม้จะรักษาด้วยการผ่าตัดก็อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร”




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ