โนวาวิด้า ชูนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ขานรับ “ไทยแลนด์เมดิคัลฮับ”

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561

โนวาวิด้า ชูนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ขานรับ “ไทยแลนด์เมดิคัลฮับ”


โนวาวิด้าขานรับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์เมดิคัลฮับ เปิด “ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก” รับ Fertility Tourism จากจีน  พร้อมชูจุดเด่นเวชศาสตร์ชะลอวัยและนวัตกรรม เซลล์บำบัดเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรเผยแผนขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าหมาย200 ล้านบาทในปี 2562

ทันทีที่รัฐบาลประกาศยุทธศาสตร์พัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (พ.ศ. 2559-2568) และมุ่งสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness) ของโลกภายใน 10 ปี แวดวงตลาด  ท่องเที่ยว เชิงสุขภาพของไทยก็เดินหน้าอย่างคึกคัก  ไม่เพียงเพราะตลาดนี้มีเม็ดเงินกว่า 1.6 ล้านล้านบาท จากตัวเลขการศึกษาของเดอะโกลบอล เวลล์เนสทัวริซึ่ม อีโคโนมี (Global Wellness Tourism Economy 2017) แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย เมื่อภาครัฐ ติดเครื่องยนต์ เอกชนก็เดินหน้าเต็มสูบ ทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลและกลุ่มธุรกิจการดูแลสุขภาพด้วย แพทย์ทางเลือก

นายทวีศักดิ์ วยากรณ์วิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนวาวิด้า อินเทอเกรทีฟ เมดิคอล เซ็นเตอร์ กล่าวว่า โนวาวิ ด้า อินเทอเกรทีฟ เมดิคอล เซ็นเตอร์  คือศูนย์บูรณาการทางการแพทย์ หนึ่งในกลไก ที่พร้อมจะร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ของภาครัฐในการบุกตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวที่สดใสมาก

“ที่ผ่านมาของภาคท่องเที่ยวด้าน Medical & Wellness ของไทยเติบโตมาก เราเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย และประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง ในการเข้ามารับบริการทางการแพทย์ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีสถานพยาบาลของไทยได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) หลายแห่ง ด้วยบริการทางการแพทย์ของไทยมีชื่อเสียง ทั้งด้านคุณภาพและบริการ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเติบโตของกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์ทางเลือกไป พร้อมๆกัน เพื่อให้บริการกับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างครบวงจร โนวาวิด้าเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจแพทย์ทางเลือกที่เราเปิดในรูปของศูนย์บูรณาการทางการแพทย์เพื่อดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวมและชะลอวัย ซึ่งพร้อมให้การดูแลผู้มารับบริการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัยจากประเทศอิตาลี ภายใต้คอนเซ็ปต์  “New Life” โดยมี ศาสตราจารย์อีวาน ตอร์เรนเต้ (Prof.Yvan Torrente), MD.,Ph.D. แพทย์ Neurologist ผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Therapy) และยีนบำบัด (Gene Therapy) จากมหาวิทยาลัย มิลาน ประเทศอิตาลี เป็นแพทย์ที่ปรึกษา โดย โนวาวิด้า เปิดให้บริการใน 2 ธุรกิจบริการหลัก คือ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (Fertility Center) ซึ่งบริการช่วยคู่สมรสที่ประสบปัญหาด้านการมีบุตรให้สามารถมีบุตรได้ง่ายขึ้น โดยมี ศ.นพ. สมบูรณ์ คุณาธิคม อดีตประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวช ศาสตร์การเจริญพันธุ์เป็นแพทย์ที่ปรึกษา และมี พญ. กมลา เตชวิวรรธน์ เป็นแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ดูแลและให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการ ส่วนบริการที่ 2 คือ ศูนย์ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ (Anti-Aging & Cell Rejuvenation Center) ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพในระดับยีนที่ออกแบบมาสำหรับเฉพาะบุคคล (Personalize Medicine) เพื่อช่วย บำบัดฟื้นฟูผู้รับบริการให้กลับมีสุขภาพที่แข็งแรง และยังช่วยให้เกิดการชะลอวัย สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี"

โนวาวิด้า พร้อมเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพคลัสเตอร์ใหม่ คือ   Fertility Tourism ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปเปิดตลาดไว้ โดยเฉพาะที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีตัวเลขว่ามีคู่สมรสชาวจีนกว่า 90 ล้านคู่ ทั้งคู่สมรสใหม่และ คู่สมรสที่ต้องการลูกคนที่ 2 (หลังจากรัฐบาลจีนเปลี่ยนนโยบายอนุญาตให้มีลูกคนที่ 2) และหลังจากที่ โนวาวิด้า ได้ไปทำการตลาดที่จีนก็ได้รับความสนใจ และมีการติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเรายังพบว่าคู่สมรสชาวจีนชื่นชอบการมาท่องเที่ยวประเทศไทย เพราะไทยมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยว และเป็นที่ยอมรับในด้านมาตรฐานของคุณภาพและบริการทางการแพทย์ ซึ่งนักท่องเที่ยวคลัสเตอร์นี้ ททท. เคยประเมินว่าคู่สมรสแต่ละคู่จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 500,000 - 1,500,000 บาทต่อทริป ตามระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย ซึ่งโนวาวิด้าตั้งเป้าว่าจะดึงนักท่องเที่ยว คลัสเตอร์นี้ มาใช้บริการของเราไม่ต่ำกว่า 400 คู่ต่อปี ซึ่งประมาณการรายได้ปีละ 200 ล้านบาท

นางสาวชาดา เพี้ยนภักตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท  โนวาวิด้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา โนวาวิด้า  ได้ให้บริการส่วนศูนย์ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ (Anti-Aging & Cell Rejuvenation Center) กับคนไทยเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วย บริการด้านการดูแลสุขภาพระดับยีนที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล (Personalize Medicine) เช่น เซลล์บำบัด (Cell Therapy) โดย โนวาวิด้ามีห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์มาตรฐานสูงของเราเอง การรักษาโดยใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดโรคมะเร็ง (Immunotherapy) ด้วย CAR T cells ซึ่งวิธีนี้สามารถรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็งร่วมกับการใช้เคมีบำบัดได้ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ในปี 2562 โนวาวิด้า จะรุกตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นสินค้าและบริการ ที่เหมาะกับความต้องการ ของแต่ละประเทศ และจากที่เราทำการตลาดล่วงหน้า พบว่า ตลาดจีน ให้ความสนใจเรื่องศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ การรักษาโรคมะเร็ง, ภูมิคุ้มกันบำบัด และการชะลอวัย ด้วยสเต็มเซลล์ ส่วนตลาดตะวันออกกลาง ให้ความสนใจในเรื่องการชะลอวัย ด้วยสเต็มเซลล์เป็นอันดับแรก รองลงมาคือการ รักษาโรคด้วยเซลล์ต้นกำเนิด และการดูแลสุขภาพและ ความงาม ส่วนกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา,ลาว,เมียนมาร์,เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดเพื่อนบ้านที่อนาคตสดใส ให้ความสนใจในกลุ่มบริการด้าน ความงามเป็นอันดับแรก รองลงมาคือการดูแลสุขภาพด้วยเซลล์ต้นกำเนิด

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ โนวาวิด้า เน้นย้ำและให้ความสำคัญมาก ก็คือโนวาวิด้า เกิดจากผู้ก่อตั้งคือ นายทวีศักดิ์ ซึ่งทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้และทำงานหนักจนสุขภาพทรุดโทรม จึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้าน เซลล์บำบัด (Cell Therapy) เพื่อดูแลสุขภาพกับ ศาสตราจารย์อีวาน ตอร์เรนเต้ จากมหาวิทยาลัยมิลาน ประเทศอิตาลี  เมื่อตนเองรักษาได้ผลและมีสุขภาพดีขึ้น จึงเกิดความสนใจศึกษาแบบจริงจัง โนวาวิด้า จึงกำหนดวิสัยทัศน์นอกเหนือความเป็นธุรกิจไว้ 2 ประการคือ คนไทยควรมีโอกาสได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดี ทั้งการป้องกันและการบำบัดรักษา และประการที่ 2 คือ ต้องเกิดการต่อยอดในงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เซลล์บำบัดในประเทศไทย จึงเกิดเป็นความร่วมมือด้านวิชาการระหว่าง โนวาวิด้า กับสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย คือ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, วิทยาลัยนาโนเทคโนโลยี พระจอมเกล้า ลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้เกิดงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่เป็นของคนไทย และโนวาวิด้า ยังให้การสนับสนุนงานวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย อีกด้วย

“หากเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์เกิดจากการงานวิจัยที่เป็นของคนไทยและสถาบันการศึกษาไทยบ้าง เชื่อว่าต้นทุนในการรักษาจะถูกลง คนไทยควรมีโอกาสเข้ารับบริการทางการแพทย์ ที่ดีที่ทันสมัยในราคาไม่เกินเอื้อม และการต่อยอดงานวิจัยกับแวดวงวิชาการไทยคือหนทางหนึ่งที่ทำให้เป็นไปได้ โดยโนวาวิด้าพร้อมจะให้สนับสนุนและร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อต่อยอดงานวิจัยและพัฒนานวตกรรมทางการแพทย์ต่อไป” 

ทั้งนี้ภายใน 3 ปีข้างหน้าโนวาวิด้า จะเปิดสาขาในกรุงเทพฯดาวน์ทาวน์ และหัวเมืองใหญ่ ก่อนที่จะขยายสาขาไปยังประเทศกลุ่ม CLMV และอีก 5 ปีข้างหน้า มีแผนการเปิดสาขาในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศจีนอีกด้วย




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ