อาการปวดบริเวณข้อต่างๆ เช่น ข้อมือ ข้อนิ้วมือ ข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า อาจไม่ใช่อาการปวดเมื่อยทั่วไป แต่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อหุ้มข้อ หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคแพ้ภูมิตนเองที่มีลักษณะอาการอักเสบของข้ออย่างรุนแรงและเรื้อรัง อาจเกิดขึ้นได้กับทุกข้อทั่วทั้งร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษา ในระยะยาวอาจทำให้ข้อถูกทำลาย กระดูกกร่อน ข้อผิดรูป และเกิดความพิการตามมาได้
สาเหตุการเกิดโรครูมาตอยด์
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด มีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ได้แก่
1. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
2. การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด
3. การสูบบุหรี่
4. ปัจจัยทางสภาพแวดล้อมอื่นๆ
อาการของโรครูมาตอยด์
การตรวจวินิจฉัย และการรักษา
แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย ถ่ายภาพรังสี ตรวจเลือดหาค่ารูมาตอยด์ และสารภูมิต้านทานที่จำเพาะต่อโรครูมาตอยด์ ซึ่งหากได้รับการวินิจฉัยแล้วผู้ป่วยจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้อง โดยเป้าหมายในการรักษามุ่งหวังให้โรคสงบ ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ปวดข้อ ทำงาน หรือใช้ชีวิตได้เป็นปกติ และลดโอกาสเกิดข้อพิการ โดยมีแนวทางการรักษาดังนี้
อย่างไรก็ตาม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แม้ว่าโรคจะสงบแล้วก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องติดตามการรักษา และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมโรคไม่ให้กลับมารุนแรง อย่างไรแล้ว การรักษาจะประสบความสำเร็จดีได้ เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 1 ปีแรกที่เริ่มมีอาการ ดังนั้น หากเริ่มมีอาการปวดข้อ หรือข้อบวม แดง ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยแลรักษาอย่างถูกต้องต่อไป