เมื่ออาหารถูกผสานเข้ากับความสนุกของการท่องเที่ยวทำให้เรารู้ว่าการกินอาหารไม่ได้แค่สัมผัสของรสชาติ แต่หมายถึงการได้ใช้ช่วงเวลาเรียนรู้วิถี ที่เต็มไปด้วยความสนุก

วันนี้เราเดินทางไปจังหวัดบึงกาฬ กับเส้นทางอาหารบอกเล่าเรื่องราวชาวอีสาน ภายใต้โครงการส่งเสริมนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้วยความที่บึงกาฬเป็นจังหวัดที่ยังไม่มีสนามบิน จึงทำให้เราได้มีโอกาสแวะเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองสกลกันก่อน

ไปกันที่บ้านหนองส่าน ต.โคกภู อ.ภูพาน จ.สกลนครดินแดนผ้าย้อมครามที่เราได้แวะช้อปแวะชม ก่อนจะเข้าสู่สวนเกษตรโสมมนัสฟาร์ม ที่มีแม่อ้อยและบรรดาแม่บ้านใจดีมาคอยต้อนรับ

ที่นี่เป็นไร่นาสวนผสมพื้นที่ราว 20 ไร่ ถูกออกแบบให้มีทั้งส่วนของนาข้าว สระเลี้ยงปลา ไม้ผล และไม้ยืนต้น พร้อมผักสวนครัวที่อาศัยร่มเงาอีกนานาชนิด รวมทั้ง “คอนแคน” ผักพื้นบ้านที่เด็ดมาผัดกินหรือจะลวกกินกับน้ำพริกก็ได้ วันนี้เรามีเมนู “แกงหน่อไม้”ทำจากหน่อไม้บงหวานในพื้นที่ ซึ่งจะออกรสชาติหวานกำลังกินในช่วงหน้าฝน แถมได้เรียนรู้เคล็ดลับการทำ “ข้าวเบือ” ที่ใช้ข้าวเหนียวมาตำกับใบย่านาง เป็นเครื่องปรุงรสให้กับอาหารต่างๆ เพิ่มความนัวและเหนียวข้น คล้ายๆ หน้าที่ของกะทิ

จากสกลนครเรามุ่งหน้าสู่บ้านหอคำ จ.บึงกาฬ แวะค้างคืนที่ “รับลม ชมโขง โฮมสเตย์” ซึ่งที่นี่มีเมนูพื้นถิ่นอันโดดเด่นอย่าง “ปลาร้าราดพริก” ให้ได้ลิ้มลอง ก่อนที่เช้าวันรุ่ง เราเดินทางไปยัง “พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต”หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ แหล่งเรียนรู้วิถีชุมชนแนวอาร์ตๆ ที่มาจากไอเดียของฟู้ดสไตล์ลิสชื่อดัง คุณขาบ สุทธิพงษ์ สุริยะ ซึ่งดัดแปลงบ้านเกิดของเขาให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขของคนในชุมชนและผู้มาเยือน

นอกจากกิจกรรมต่างๆ ทั้งส่วนการแสดง การสาธิตงานฝีมือ การเดินชมพิพิธภัณฑ์ และภาพเขียนกราฟฟิตี้ในหมู่บ้านแล้ว เรายังได้ลิ้มลองเมนูพื้นถิ่น จากฝีมือคนในชุมชน ทั้งอาหารคาวหวาน เมนูจากหน่อไม้ เมนูต่างๆจากแม่น้ำโขง พร้อมไฮไลท์เด็ด “หมี่กะทิ” ที่มีลักษณะของเส้นหมี่ ราดด้วยน้ำยากะทิที่มีหมูและไข่เป็นส่วนผสม กินกับผักนานาชนิด ลองแล้วบอกได้ว่าแซ่บจริง  

ด้วยความสนุกสนาน “ม่วนหลาย” สไตล์อีสาน ทำให้อาหารพื้นบ้านอร่อยขึ้น เป็นอีกเส้นทางเที่ยวไปกินไป ที่อยากให้ทุกคนมาแซ่บด้วยกัน