“Craft Co-Creation” โชว์ผลงานพัฒนาหัตถศิลป์ 4 คอลเล็คชั่น จากชุมชน 4 ภาค

วันพุธที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2561

“Craft Co-Creation” โชว์ผลงานพัฒนาหัตถศิลป์ 4 คอลเล็คชั่น จากชุมชน 4 ภาค


งานศิลปหัตถกรรมเป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทย เนื่องจากเป็นทั้งรากฐานทางวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาของแต่ละชุมชน สร้างอัตลักษณ์ให้กับแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งเชิดชูความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้น ผลงานศิลปหัตถกรรมในแต่ละชุมชนยังเป็นอีกแนวทางในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชาวบ้าน

แต่ยังมีผู้รังสรรค์ผลงานในหลายชุมชนทั่วประเทศ ที่ยังไม่ทราบถึงแนวทางในการพัฒนาสินค้าเพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นจึงมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เข้ามาดูแลในหลายโครงการ รวมทั้งโครงการล่าสุด Craft Co-Creation ที่นำนักออกแบบ และผู้ประกอบการ ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชุมชน จนได้เป็นผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ จากการผสมผสานรากเหง้าของงานฝีมือท้องถิ่น โดยได้เปิดตัวให้ชมด้วยกัน ใน 4 คอลเล็คชั่น จากชุมชน 4 ภาค

เมื่อไม่นานมานี้ SACICT หรือ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ได้จัดกิจกรรม “สรุปผลการดำเนินโครงการร่วมรังสรรค์ศิลปหัตถกรรม (Craft Co-Creation)”  ณ ห้องประชุมแพรวา ชั้น 2 อาคารศาลาพระมิ่งมงคล ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)  โดยมีคุณอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เป็นประธาน และคุณแสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ คุณเพ็ญศิริ ปันยารชุน ผู้จัดการสายงานยุทธศาสตร์ และรักษาการผู้จัดการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และศักยภาพ ร่วมงาน

การแสดงผลงานในครั้งได้นำมีการเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอดโครงการจากตัวแทนจากกลุ่มเข้าร่วมโครงการ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักออกแบบ คุณศรันย์ เย็นปัญญา  คุณเฉลิมพงศ์  อ่อนยอง  ดร.กฤษณ์ เย็นสุขใจ และ คุณศุภชัย แกล้วทนงค์  กลุ่มผู้ประกอบการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Exotic Thai/สยามพารากอน)  ร้าน Room Concept Store  บริษัท ดินไฟ จำกัด และ บริษัท บันยันทรีโฮลดิ้ง จำกัด

นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยที่ได้จากโครงการกว่า 30 ผลงาน และ เปิดเวทีระดมความคิดเห็นในเรื่องของเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์จากแต่ละกลุ่มชุมชน  แนวทางการพัฒนา งานรูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน การต่อยอดผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสู่ตลาดสากล ความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการ นักออกแบบ และชุมชน

ผอ.อัมพวัน กล่าวว่า โครงการร่วมรังสรรค์ศิลปหัตถกรรม หรือ Craft Co-Creation เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนา งานหัตถกรรมของ SACICT ที่ต้องการพัฒนางานหัตถศิลป์ไทยให้สอดรับกับยุคปัจจุบันและเตรียมความพร้อมเพื่อให้ผู้ผลิตสามารถแข่งขันได้ในอนาคต โดยเกิดจากการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ รวมถึงทักษะการผลิต การหาช่องทางการตลาดใหม่ๆระหว่างบุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มครูช่างศิลปหัตถกรรม นักออกแบบ และผู้ประกอบการ มุ่งหมายให้เกิดการทำงานร่วมกันตั้งแต่กลุ่มคนด้านการผลิตจนถึงด้านการตลาด ซึ่งทำให้ผู้ผลิตได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบ

“นักออกแบบเป็นกลุ่มหนึ่งที่มีอิทธิพลอย่างสูงด้านการตลาด เรียกว่าเปลี่ยนมุมมองความคิดของการทำงานของชุมชน เรานำกลุ่มผู้ประกอบการที่ค้าขายงานหัตถกรรมมาทำงานตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้การออกแบบและการผลิตสอดคล้องกับการตลาด

การทำงานนี้ถือเป็นการตอบโจทย์การทำงานคราฟท์เข้ามาสู่ชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง โดยคาดหวังให้งานที่ผ่านการพัฒนาขององค์กร ไม่ว่าจะทำงานกับชุมชน นักออกแบบหรือใครก็ตามสามารถไปถึงตลาดได้อย่างจริงจังและมีผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นต้นแบบในการจำหน่ายต่อไป เพื่อให้ชุมชนมั่นใจว่า การพัฒนาโดยนำองก์ความรู้มาต่อยอดนี้ ก่อให้เกิดโอกาสทางการตลาดตลอดเวลา” 

ผอ.อัมพวัน กล่าวต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ภาคที่นำไปพัฒนากับชุมชน เริ่มจากโจทย์ที่ว่า กลุ่มเป้าหมายทางการตลาดคือใคร เช่น กลุ่มบันยันทรี หรือ กลุ่มเดอะมอลล์ เมื่อเรารู้ตลาดแล้ว ก็รับสมัครกลุ่มผู้ทำงานหัตถกรรมซึ่งเป็นสมาชิกของศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศฯ  อาจจะเป็นครูช่าง ทายาท หรือชุมชนก็เป็นการแมทช์กัน

เป็นการแมทช์กันระหว่างกลุ่มผู้ที่ต้องการพัฒนาและกลุ่มที่อยากเห็นชิ้นงานเหล่านั้น ส่วนใหญ่นักออกแบบที่มาร่วมงานเป็นกลุ่มที่ได้รับรางวัล ICA ของ SACICT อยู่แล้ว มีความคุ้นเคยกับงานหัตถกรรม ดังนั้นเมื่อ 3 หน่วยมาเจอกันก็จะเป็นการผสมผสานทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือเป็นกลุ่มผ้าทอดั้งเดิมของชนเผ่า เบญจรงค์ภาคกลาง งานจักสานภาคกลางและภาคใต้

“ในการทำงานช่วงแรกอาจมีปัญหาบ้าง เนื่องจากคนทำงานหัตถกรรมในชุมชนจะคุ้นเคยกับงานแบบเดิมๆ แต่เราได้นำนักออกแบบและกลุ่มผู้ซื้อลงพื้นที่ไปด้วย ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน โดยการทำงานจะทำต้นแบบออกมาเพื่อวิเคราะห์ ทั้งต้นแบบ รายละเอียดของเนื้องาน มีการปรับปรุงการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือทำอย่างไรให้ชุมชนเข้าใจว่า การนำเอาแนวความคิดหรือนวัตกรรมทางความคิดหรือการคิดนอกกรอบ เป็นหัวใจของการพัฒนางานหัตถกรรม โดยใช้องค์ความรู้ที่เขามีเป็นตัวตั้ง”

ภาคกลาง : BENJAMIN COLLECTION  ผลิตภัณฑ์จากภาคกลาง ผลงานการออกแบบ ของ ดร.กฤษณ์ เย็นสุดใจ ร่วมกับทาง “ดินไฟ” ทำงานร่วมกับชุมชนหัตถกรรม หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี จังหวัดสมุทรสาคร ชุมชนผ้าไหมบ้านครัว กรุงเทพฯ โดยได้ผสมผสานงานออกแบบอุตสาหกรรมกับงานช่างฝีมือ ปรับลวดลายดั้งเดิมด้วยการตัดทอนให้มีความเรียบง่าย เป็นระเบียบ ด้วยเฉดสีที่มีความทันสมัย

นางณิฐ์ภาวรรณ แตงเอี่ยม ทายาทครูช่าง กล่าวถึงขั้นตอนงานว่า การใช้สีซึ่งไม่หนักเกินไปเป็นสีพาสเทล ซึ่งเหมาะกับสมัยปัจจุบันวัยรุ่นทั่วไปหาซื้อได้ แต่ยังคงการลงสีโดยใช้พู่กันตามแบบสมัย ร.2 โดยนำลวดลายของลายเทพพนมนรสิงห์ ซึ่งเป็นลายเริ่มแรกของเบญจรงค์และนำช่อไฟ ซึ่งอยู่ในลวดลายเทพพนมนรสิงห์มาทำให้ดูมีช่องว่างขึ้นไม่แน่นจนเกินไป และได้นำน้ำทองซึ่งมีมาในสมัย ร.5 มาใส่ลายช่อไฟ เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวบนสีที่ก่อให้เกิดความอบอุ่นและอ่อนหวานขึ้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ :  ไทเลย คอลเลคชั่น  โดยนักออกแบบ เฉลิมพงศ์ อ่อนยอง ร่วมกับทาง “รูม คอนเซ็ปต์ สโตร์” เป็นการนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ในภูมิปัญญากลลุ่มจักสานไทเลยมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบให้เข้ากับยุคสมัยและการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ โคมไฟ กระจกตั้งโต๊ะ โดยทำงานร่วมกับ กลุ่มจักสานไทเลย จังหวัดเลย

ภาคเหนือ : EXOTIC POP COLLECTION โดยนักออกแบบ “ศรัญย์ เย็นปัญญา” ร่วมกับทางเดอะมอลล์ เป็นการนำเสน่ห์ของกาทอผ้าพื้นเมือง ผ้าชาวเขา มาดัดแปลงเป็นสินค้าของคนเมืองที่มีวิถีชีวิตวุ่นวาย โดยให้เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยการทำงานในครั้งนี้ ได้ผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนหัตถกรรมบ้านดอนหลวง จังหวัดลำพูน กลุ่มทอผ้าชาวกะเหรี่ยงบ้านหล่ายแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ และ พ่อครูดิเรก สิทธิการ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ศ.ศ.ป. พ.ศ.2554 (ดุนโลหะ) จังหวัดเชียงใหม่ จนได้กระเป๋าผ้าหลากหลายรูปแบบ ที่สะท้อนถึงความเป็นไทย ในรูปแบบทันสมัย ใช้ฝีมืองานทอผ้า งานช่างดุนโลหะ มาเป็นสินค้าที่คาดว่าจะสามารถพัฒนาเพื่อวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ต่อไป

ภาคใต้ : ROOT COLLECTION โดยนักออกแบบ “ศุภชัย แกล้วทนงค์” ร่วมกับทาง “บันยันทรีโฮลดิ้ง” นำเสนอคอลเล็คชั่นภายใต้แนวคิด Root ซึ่งหมายถึงราก เพราะรากคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง แสดงให้เห็นถึงความมั่นคง แข็งแรง และความสมบูรณ์ โดยได้ทำงานร่วมกับชุมชนกรงนกบ้านในด่าน   กลุ่มทอหางอวน และ กลุ่มจักสานใบกระพ้อ จังหวัดนครศรีธรรมราช  เกิดเป็นงานที่ผสมผสานงานฝีเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ เป็นโคมไฟ กรอบกระจก งานศิลปะติดฝาผนัง ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงาน และตรงความต้องการของตลาด เป็นอีกคอลเล็คชั่นที่คาดว่าจะได้ตอบรับในเชิงพาณิชย์เช่นกัน

และนี่คือความภาคภูมิใจจาก Craft Co-Creation ซึ่งแสดงให้เห็นทั้งรากเหง้าอันงดงาม เมื่อนำมาผสมผสานและต่อยอด ก็กลายเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยชุมชนให้มีรายได้ พร้อมสืบสานให้งานศิลปหัตถกรรมอันทรงคุณค่าของเมืองไทย คงอยู่สืบไป




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ