จังหวัดปัตตานีได้ชื่อว่ามีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม มีมัสยิดกลางที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปทรงที่คล้ายกับทัชมาฮาลในประเทศอินเดีย นับเป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งใครมาเยือนปัตตานีก็จะไม่พลาดที่จะเข้ามาชมความงดงามของมัสยิดกลางแห่งนี้
การเดินทางไปยังปัตตานีในครั้งนี้ ในโครงการ “เก๋ายกก๊วน ชวนกันเที่ยวใต้” ซึ่งจัดขึ้นจากความร่วมมือของ ททท.สำนักงานนราธิวาส และ ไปไหนดี ทราเวล ทำให้เราได้พบกับมุมมองใหม่ของปัตตานี ซึ่งอยากแนะนำว่ามาแล้วไม่ควรพลาดเช่นกัน
เปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา กับมุมมองระฟ้าของ “สกายวอล์ก ปัตตานี”ตั้งอยู่ระหว่างหาดรูสะมีแล กับสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ต.รูสะมีแล อ.เมือง จ.ปัตตานีทางเดินลอยฟ้าที่จะพาเราไปชมความงามของธรรมชาติป่าโกงกางและชายหาด สูงราวตึก 5 ชั้น ด้วยงบการก่อสร้าง 98 ล้านบาท และกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของปัตตานีที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถมองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตาโดยไม่มีอะไรมาบดบัง
แต่ก็อาจจะไม่ถูกใจคนกลัวความสูง เพราะพื้นทางเดินเป็นตาข่ายเหล็ก ที่สามารถมองทะลุไปเบื้องล่างได้ คล้ายๆ การยืนบนกระจกใส ที่เสียวไส้เล็กๆ พอให้ท้าทายหัวใจตัวเอง
อีกมุมมองใหม่ที่อยากแนะนำคือ “บางปู” อ.ยะหริ่ง ชุมชนมุสลิมริมอ่าวปัตตานี ที่ได้ชื่อว่าบางปู ก็เพราะมีปูดำอาศัยอยู่มาก กิจกรรมหลักคือการล่องเรือในยามเช้าหรือยามเย็น ลอดอุโมงค์ป่าโกงกางทางยาว ก่อนจะลอดมาสู่ผืนน้ำอันกว้างใหญ่
วันนี้ได้จังหวะพอเหมาะพองาม ในยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า คณะวัยเก๋าเฮฮากับความงดงามของแสงสุดท้ายแห่งวันที่ทอประกายเจิดจ้า ก่อนความมืดจะเข้ามาปกคลุม มองแล้วอบอุ่นในหัวใจ
นับเป็นการท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ที่น่าสนใจ ดูแลโดย กลุ่มชุมชนท่องเที่ยวบางปู ซึ่งหลังจากล่องเรือแล้วยังได้ชิมอาหารทะเลจากชาวบ้านในพื้นที่ ปรุงมาในแบบอาหารท้องถิ่น โดยคนในท้องถิ่น นั่งกินกันริมชายฝั่ง มองฟ้ามองน้ำกันเพลิดเพลินสุดๆ ไปเลย
ใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศ ก็สามารถติดต่อเข้าไปได้ที่ โทร. 088-389-4508 แต่อาจจะรองรับได้ไม่มากนัก ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่และความพร้อมของชุมชน อีกทั้งเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากไป ก็อาจสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนได้
ไปปัตตานีครั้งต่อไป ก็ไม่อยากให้พลาด มุมมองใหม่ทำให้การเดินทางมาครั้งนี้ ดูดี มีสไตล์ ขึ้นมาอีกขั้น