ไหนๆๆ ใครบอกว่า อยุธยาใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้เอง ขับรถไปเช้าเย็นกลับก็พอ นั่นอาจจะเป็นไปได้ ในกรณีที่ใครอยากจะมาเที่ยวชมอยุธยาแบบเร่งรัด แต่ขอบอกว่า นอกจากวัดวาอารามอันเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปแล้ว ในดินแดนอันล้ำค่าของกรุงเก่าอันเป็นมรดกโลก ยังมีมุมมองใหม่ๆ ให้ได้เที่ยวชมกันอย่างเพลิดเพลิน จนวันเดียวเที่ยวกันไม่หมด
สีสันของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในวันนี้ ยังคงคึกคัก ด้วยจำนวนของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวชมดินแดนประวัติศาสตร์แห่งนี้ และหากวันนี้คุณไปไปเที่ยวอยุธยา เรามีแหล่งท่องเที่ยวมุมมองใหม่มาฝากกัน
เริ่มต้นจากโบราณสถานวัดพระงามหรือวัดชะงาม ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก เพราะเป็นเพียงโบราณสถานเล็กๆ ที่มีอายุยาวนาน สันนิษฐานว่าสร้างวัดในสมัยอยุธยาตอนต้น และเป็นวัดร้างที่ถูกทิ้งร้างตามกาลเวลา แต่ไฮไลต์ของที่นี่คือ เจ้าซุ้มประตูที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ ภายใต้การโอบอุ้มของรากของต้นโพธิ์
วัดแห่งนี้มีผู้คนมาเยี่ยมชมไม่มากนัก แต่จุดทีเรียกว่า “ซุ้มประตูแห่งกาลเวลา” ได้กลายเป็นอันซีนหนึ่งของอยุธยา เมื่อหันหน้าเข้าหาซุ้มประตู แล้วเดินเข้าไป เห็นทางเดินที่ทอดยาวเข้าไปหาเจดีย์แปดเหลี่ยมที่ยังงดงามเป็นสง่า เปรียบดั่งประตูทะลุมิติไปยังความงดงามของโบราณสถานแห่งนี้
เมื่อเวลากลับ การเดินย้อนผ่านประตูเดิมกลับมา จะพบกับภาพที่แปลกตาออกไป นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย รายล้อมด้วยบ้านเรือนและวิถีของผู้คน เสมือนการได้ย้อนกลับมาจากอีกมิติหนึ่งนั่นเอง หากเดินทางไปเที่ยวชมในยามพระอาทิตย์ตก แสงของวันก็จะสะท้อนประกายงดงามมาก
แม้จะเป็นสถานที่เล็กๆ แต่นี่ก็คือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของคนไทย หากใครเดินทางไปอยุธยาในตอนนี้ก็อย่าลืมไปเที่ยวชม และร่วมซึมซับเรื่องราวของความเปลี่ยนแปลงผ่านซุ้มประตูแห่งกาลเวลา แล้วฉบับหน้าเราจะพาเที่ยวอยุธยาในอีกมุมมองที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยแวะไปชม