มันเป็นเช้าที่งดงามที่สุดในชีวิตการเดินทางของผมเลยก็ว่าได้  แสงแรกของวันยังโผล่ไม่พ้นขอบฟ้าเห็นเพียงเงาดำๆของเครื่องมือหาปลาภูมิปัญญาชาวบ้านที่เรียกกกันว่า “ยอ” ขนาดใหญ่ดูไปคล้ายบางสิ่งที่ลึกลับ  ความเงียบสงัดถูกทำลายด้วยเสียงเรือหางยาวที่เป็นสัญญาณเริ่มต้นของชีวิตชาวประมงในวันใหม่ริ้วคลื่นแห่งความหวังแผ่ออกเป็นระลอก....ครับมันสวยจนผมอยากเขียนบทกวีและที่นี่คือทะเลน้อยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติชื่อดังแห่งเมืองพัทลุง

 คณะของเราตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะมาลงเรือให้ทันชมความงามดังที่กล่าวมาแล้วในรถตู้ที่มีทั้งทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)ผู้จัดทริปนี้และบรรดากลุ่มสื่อมวลชนที่ร่วมทาง  ทุกคนหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นภาพที่เล่ามาต่างร้องบอกให้จอดรถเพื่อที่จะรีบลงไปบันทึกโมงยามแห่งความงามนี้ไว้ให้ทันท่วงที  จากนั้นก็ทยอยกันลงเรือเพื่อไปชมทะเลบัวและธรรมชาติในทะเลน้อย นกกระยางบินมาทักทายชาวบ้านที่นี่สามารถปลูกข้าวได้ในน้ำเป็นเรื่องน่าสนใจเป็นอย่างมากแม้บัวไม่มากเท่าช่วงเดือนมีนาคมแต่ก็มากพอที่จะสภาพตลอดระยะทางที่จะไปชมทะเลดอกบัวนั้นคนเรือแนะนำให้เราดูการทำนาในผืนน้ำที่แตกต่างและนับเป็นภูมิปัญญาของผู้คนที่นี่  เรือจอดแวะถ่ายภาพชาวประมงเป็นระยะเนื่องด้วยแสงยามเช้ากับภาพชีวิตตรงหน้ามันทำให้ใครก็ตามที่มีกล้องถ่ายภาพอดใจไว้ไม่อยู่จริงๆ  จนกระทั่งคนเรือต้องเร่งพวกเราด้วยคำพูดที่ว่าเดี๋ยวบัวมันจะหุบซะก่อนนะครับ  จากทะเลน้อยเราเดินทางไกลต่อไปยังอ.ระโนดในเขตจ.สงขลาเพื่อพบกับชุมชนริมน้ำเก่าแก่ที่ได้รับรางวัลด้านการท่องเที่ยวและอนุรักษ์มากมายจนนับป็นชุมชนต้นแบบสำหรับผู้ที่สนใจจะทำโฮมเสตย์หรือการท่องเที่ยวชุมชนทั้งหลาย ช่วงบ่ายแก่ๆเราก็มาถึงชุมชนวิถีพุทธคลองแดนอันเป็นพื้นที่รอยต่อสามจังหวัดทั้งสงขลา พัทลุงและนครศรีธรรมราชสภาพอาคารไม้เก่าที่เคยเป็นตลาดริมน้ำเมื่อหลายสิบปีก่อนมีกี่ตัดถนนผ่านยังคงความขลังและได้รับการฟื้นฟูชุบชีวิตโดยคนรุ่นหลังที่รับหน้าที่ดูแลให้ชุมชนยังคงกลิ่นอายและสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คนในชุมชนให้ยังคงไว้ เราเดินชมบ้านพักแบบโฮมเสตย์มีคุณลุงคุณป้านั่งยิ้มต้อนรับที่หน้าบ้านแบบกันเอง  ราคาที่พักก็หลักร้อยแถมเลี้ยงอาหารผู้มาเยือนราวกับญาติมิตร  ภาพในบ้านตกแต่งด้วยเครื่องใช้ไม้สอยที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของพวกเขามันเหมือนการเดินเล่นในพิพธภัณฑ์ขนาดย่อมและมีชีวิต   เราปิดท้ายทริปนี้ด้วยการข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลย์เซียเที่ยวชมโฮมเสตย์ Payakulingที่เน้นเรื่องการเรียนรู้วิถีชีวิตด้านการเกษตรให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ ที่มักจะเดินทางมาจากเมืองใหญ่พร้อมครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจารย์ปรัชญากรณ์ ไชยคชผู้ทำหน้าที่ประสานงานในทริปนี้ยังพาเราไปชมพระราชวังแห่งเมืองเปอร์ลิสที่ภายในจัดแสดงเรื่องราวข้าวของเครื่องใช้ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเอาไว้มากมาย  การเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของผู้คนนั้นช่วยให้เราได้เข้าใจโลกเข้าใจผู้อื่นที่แตกต่างได้เป็นอย่างดีและนั่นหมายถึงการอยู่ร่วมอย่างสันติและเป็นสุขอีกด้วย