เที่ยวไปในลุ่มน้ำทะเลสาบ (ตอนที่ 2)

วันศุกร์ที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เที่ยวไปในลุ่มน้ำทะเลสาบ (ตอนที่ 2)


 

คราวที่แล้วผมเกริ่นนำไว้ถึงเรื่องการทำโพนอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองพัทลุงก็ว่าได้  โพนเป็นเครื่องตีเพื่อบอกเวลาบอกเหตุต่างๆจึงเน้นเรื่องเสียงดังได้ยินไปไกลมากกว่ากลองซึ่งใช้ในการคุมจังหวะของวงดนตรีเมืองพัทลุงมีการสร้างโพนมงคล 9 หอติดตั้งตามสถานที่สำคัญของเมือง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาตีโพนทั้ง 9 ลูกที่มีชื่อคล้องจองกันคือโพนก้องฟ้าโพนสุธาสนั่น โพนขวัญเมืองโพนเรืองเดชา โพนมหามงคล โพนมนต์เทวัญโพนอนันตชัยและโพนศรีไพศาลเพื่อความเป็นสิริมงคลยามที่มาเยือนเมืองนี้.....

      และผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดฝีมือในการทำโพนนั้นเป็นที่รู้กันทั้งจังหวัดว่าย่อมเป็นลุงกล่อม ชูแก้วดังนั้นทีมสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)ผู้จัดทริปนี้จึงพาคณะของพวกเราไปยังบ้านของลุงกล่อมเพื่อเรียนรู้การทำโพนผู้ที่มาต้อนรับเป็นลูกชายผู้รับหน้าที่สืบทอดภูมิปัญญาการทำโพนจากพ่อ เขากลับมาบ้านหลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและยังรับสอนให้เด็กรุ่นหลังได้รู้วิชาการทำโพนอีกด้วย เริ่มจากการขึงหนัง(ซึ่งนิยมใช้หนังควายมากกว่าหนังวัวเนื่องจากให้เสียงที่ดังกว่า) ขั้นตอนการขึงหนังนี้นับว่าน่าสนใจมากด้วยการใช้ไม้ไผ่มาขัดจนดูเคล้ายขาแมงมุมทิ้งไว้กลางแดดเพื่อให้หนังตึงและดึงไม้ไผ่จนโก่งงอโดยใช้เวลาราวสามถึงห้าวัน จากนั้นจึงนำมาตอกหมุดที่หลาวจากไม้ไผ่ซึ่งถือเป็นขั้นตอนการเช็กเสียงอย่างละเอียดอีกครั้งเมื่อได้ที่แล้วจึงลงหมุดโลหะและสายรัดรอบๆตกแต่งสีสันที่ตัวโพนซึ่มทำมาจากไม้ตาลขุด (จะเห็นได้ว่าวิถีชีวิตนั้นสอดคล้องกันมากด้วยการใช้วัสดุท้องถิ่นมาผลิตทั้งหมด) เรามากินมื้อกลางวันกันท่ามกลางสวนไผ่ของพี่ขวัญใจกลางเมืองพัทลุงที่นี่ปลูกไผ่มากมายหลายพันธุ์บางชนิดราคาหน่อละหลายพันบาทก็มีพี่ขวัญใจเชี่ยวชาญเรื่องเกี่ยวกับไผ่อย่างมากสายลมเย็นโชยผ่านยอดไผ่พลิ้วไหวราวกับเดินอยู่ในฉากหนังจีนกำลังภายใน ฟังการบรรยายสรรพคุณต่างๆของไผ่ทั้งเป็นอาหารและควรเก็บหน่อไม้มาปรุงอาหารก่อนแสงอาทิตย์ขึ้นเพื่อป้องกันสารไซยาไนน์ที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติไปจนถึงถ่านที่เผาจากไผ่ช่วยป้องกันรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ได้ เป็นต้น  ภาชนะที่ใช้ในสวนไผ่นี้ล้วนทำมาจากไผ่เช่นแก้วน้ำดื่มหรือถาดใส่ของว่างถือเป็นไอเดียน่ารักที่หลายคนติดใจ  ในวันที่เราไปถึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความนับถือศรัทธาในแนวคิดพอเพียงของพี่ขวัญใจมาทำหน้าที่นักดนตรีขับกล่อมระหว่างมือ้กลางวันอันแสนวิเศษนี้ด้วย ช่วงบ่ายเรามีโอกาสแวะซื้อของที่ระลึกชั้นดีอย่างกุ้งแก้วของร้านสอลิหะที่มีกรรมวิธีแบบดั้งเดิมด้วยการนำกุ้งแชบ้วยมาล้างน้ำเกลือและย่างไฟเตาฟืนเป็นเวลาห้าชั่วโมงจนแห้งกรอบอร่อยและโด่งดังไปทั่ว ในช่วงเย็นท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็กรุณาเดินทางมาพบคณะของเราและพูดถึงแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในหลายๆด้าน เช่นการสร้างสนามบินและการท่องเที่ยวในทะเลน้อยที่ชาวจีนและมาเลย์ชื่นชอบกันมากปลาดุกร้าของวิเศษเมืองพัทลุงถูกยกมาเสิร์ฟทำให้เสียงการสนทนาเงียบลงอย่างน่าแปลกใจ(ฮา) คราวหน้าจะพาไปท่องทะเลน้อยชมนกชมบัวละลานตากันครับโปรดติดตาม

ขอขอบคุณ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) สนับสนุนการเดินทาง

 




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ