ความสุขของการเดินทาง คือ การได้ออกเดินทาง
แม้ว่าหลายคนจะมีเป้าหมายเดียว กันคือ "ความสุข" แต่สิ่งที่เราตามหาอยู่นั้น หาได้อยู่แค่ปลายทางที่ถามหา
ทราบกันดีว่าจังหวัดทางภาคเหนือจะบูมกันอีกทีก็ช่วงหน้าหนาว แต่แท้จริงแล้ว ภาคเหนือก็เหมือนภาคอื่นๆ ที่เที่ยวได้ทั้งปี เพราะเมืองไทยเรามีของดีนอกเหนือจากสภาพอากาศ ทั้งศิลปวัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ หรือแม้แต่ประสบการณ์ใหม่ๆ ทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งเชื่อว่า ไม่มีใครสามารถรวบรวมเอาไว้ได้ในที่เดียว
เชียงรายเป็นจังหวัดที่ทรงเสน่ห์ ทั้งด้านทัศนียภาพ ศิลปะ หรือผู้คน ความเรียบนิ่ง-เรียบง่าย กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เชียงรายอยู่ในใจของผู้คนที่ถวิลหาความสงบ
เมื่อต้นปีเรามีโอกาสไปเยือนเชียงรายอีกครั้ง และครั้งนี้เส้นทางท่องเที่ยวก็เป็นไปตามปกติที่เคยคุ้น ที่เป็นไฮไลต์คือการเข้าเยี่ยมชม "สิงห์ ปาร์ค" ซึ่งเป็นจุดหมายที่เรามาเยือนเชียงรายในครั้งนี้
"สิงห์ ปาร์ค เชียงราย" เดิมชื่อ "ไร่บุญรอด" (แม่กรณ์) ตั้งอยู่ริมถนนสายเด่นห้า-ดงมะดะ ห่างจากเมืองเชียงรายประมาณ 9 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 8,600 ไร่ แน่นอนว่าในช่วงหน้าหนาว เป็นช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด
แต่สำหรับกลางปีที่จะมีทั้งแดดและฝน น่าจะเป็นผลดีกับการปลูกพืชหลายชนิด เพราะไร่แห่งนี้เขามีการปลูกพืชผักมากมายหลากหลายพันธุ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ให้ความเพลิดเพลินและความรู้ไปในเวลาเดียวกัน เพราะเป็นเกษตรกรรมแบบปลอดสารพิษ โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์บำรุงดินและใช้น้ำส้มควันไม้
พืชพรรณที่น่าสนใจในสิงห์ปาร์คแห่งนี้ มีทั้ง "ชาอู่หลงสายพันธุ์จินซวน" (Jin Xuan) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ ชาอู่หลงเบอร์ 12 เป็นชาสายพันธุ์ไต้หวัน ในเนื้อที่กว่า 600 ไร่, พุทราพันธุ์ซื่อหมี่, มะเฟืองยักษ์หวาน, มัลเบอร์รี่, สตรอว์เบอรี่, ราสเบอร์รี่, เมลลอน และผักสลัดนานาชนิด
ผลไม้บางชนิดย่อมต้องรอคอยสภาพอากาศเอื้ออำนวยในการออกดอกออกผล แต่บางชนิดก็อาศัยแค่ความสมบูรณ์ของการดูแล ซึ่งภายในสิงห์ปาร์คยังมีแหล่งน้ำธรรมชาติมากกว่า 50 แห่ง ขนาดแหล่งน้ำที่ใหญ่ที่สุดคือขนาด 150 ไร่ ทำให้มีผลผลิตทางการเกษตรตลอดทั้งปี
ทางไร่มีถนนที่เหมาะกับการปั่นจักรยาน มีไกด์นำทางพร้อมรถท่องเที่ยวนำพาท่านสู่อาณาจักรอันกว้างใหญ่ แวะชมพืชผักชิมผลไม้ไปตามฤดูกาล ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าชมสถานที่แห่งนี้คือการโทรศัพท์เข้าไปสอบถามว่า ช่วงนี้มีอะไรออกดอกออกผลบ้าง แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศไร่ชาเชิงเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นใจก็เที่ยวกันได้ทั้งปี
ช่วงที่เราเดินทางไปสิงห์ปาร์ค นับเป็นช่วงที่ปลายหนาวเข้าสู่ร้อนอย่างจริงจังแล้ว ดังนั้นผลไม้หรือพืชผักเมืองหนาวบางชนิดก็ไม่มีสิทธิ์ได้ชื่นชม เช่น ผลไม้พันธุ์พิเศษ แบบที่ใครมาแล้วมักจะกลับเล่าสู่กันฟัง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เราต้องผิดหวังเสมอไป
ที่ร้านอาหาร "ภูภิรมย์" ตั้งอยู่บนจุดชมวิวของไร่ คู่รักใช้โอกาสของยามเย็นมาดื่มด่ำรสชาติความหวานรับราตรีที่สุด โรแมนติก แถมเมนูเด็ดของเขาก็ไม่ธรรมดา ย้ำว่าถูกปากผู้เขียนนักเล โดยเฉพาะ "ยำใบชาทอดกรอบ" ใบชาสดที่คลุกอยู่กับเครื่องยำรสชาติจัดจ้าน ถูกใจให้ไปเลย 5 ดาว หรือจะเป็นใบชามาชุบแป้งบางๆ ทอดกรอบ กินกับน้ำจิ้มก็เหมาะเจาะไปอีกแบบ นอกจากนั้นก็มีเมนูฮิตอีกหลายอย่าง บางคนเลือกดื่มน้ำผลไม้ อย่างราสเบอร์รี่หรือเสาวรส บางคนก็เลือกดื่มไวน์ หรือเบียร์ นั่งพูดคุยถึงเรื่องราวสบายๆ ดื่มราตรีที่ไม่ยาวนานนัก ท่ามกลางเสียงขับกล่อมของดนตรีโฟลกเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับที่พัก
เป็นทริปที่เรียบง่ายได้ใจความ เสมือนได้กลับมาเยือนชานเรือนของเพื่อนเก่า ที่ชื่อว่า "ธรรมชาติ" แค่นั้นก็เป็นคำตอบได้ดีแล้วว่า จะสภาพอากาศไหน หรือจะเจอความสุขกับสิ่งใดก็ตาม เพื่อนคนนี้ก็ทำให้ทุกการเดินทางของเรารู้สึกดีเสมอ