Toggle navigation
วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
นวดสลายจุดกดเจ็บ ...ลดปวดกล้ามเนื้อ
นวดสลายจุดกดเจ็บ ...ลดปวดกล้ามเนื้อ
วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ด้วยไลฟ์สไตล์ชีวิตที่พึ่งพาเทคโนโลยีทั้งการใช้คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก, แท็บเล็ต ฯลฯ ที่ต่อเนื่องและยาวนานทั้งในหมู่คนทำงานและคนทั่วไปกำลังสะสมปัญหาสุขภาพให้กับร่างกายตนเอง ส่วนใหญ่จะมีอาการตั้งแต่การปวดศีรษะไมเกรน ปวดคอ บ่า หลัง เพียงนั่งทำงานไปไม่นานก็จะเกิดอาการมึนศีรษะหรือเริ่มปวดจนร้าวลงไปลึกๆ
หลายคนแก้ปัญหาโดยใช้วิธียืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบต่างๆ หรืออาจพึ่งบริการนวดแผนไทยหรือสปา แต่ก็ทำได้แค่ทุเลาอาการลงเท่านั้น
เมื่ออาการปวดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนรบกวนการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน คนจำนวนมากจึงหันไปใช้ยาแก้ปวด หรือยาคลายกล้ามเนื้อ เพื่อบรรเทาอาการปวดดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มทำงานก็จะรู้สึกปวดมากขึ้นอีก ทำให้หลายคนสงสัยว่าอะไรคือสาเหตุของอาการปวด ที่ไม่ว่าจะรักษาอย่างไรก็ไม่หายสักที
แพทย์อายุรเวท วิภาพร สายศรี จาก ศูนย์รักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อ ดอกเตอร์แคร์ คลินิก กล่าวว่า อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ปวดศีรษะ ไมเกรน มีสาเหตุมาจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ที่เกิดมาจากการใช้งานซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ นั่งทำงานนานๆ โดยไม่ได้มีการยืดกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง
เมื่อกล้ามเนื้อมีการเกร็งตัวก็จะเกิดอาการเมื่อยและเริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อตามมา เนื่องจากมีของเสียสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อนั้นและเมื่อมีการเกร็งตัวสะสมนานๆ จะทำให้เกิดก้อนเนื้อเล็กๆ ขนาด 0.5-1.0 เซนติเมตร จำนวนมากแทรกอยู่บริเวณฐานศีรษะ, คอ, บ่าและหลัง
โดยก้อนเนื้อมีการอักเสบเนื่องจากมีการสะสมของของเสียที่ไม่สามารถระบายออกได้ ทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณดังกล่าวหรือส่งอาการปวดลึกๆ ไปที่กล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียง และถ้าก้อนเนื้อดังกล่าวบางส่วนไปกดทับเส้นเลือด และเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะและเกิดอาการชาที่ปลายมือได้
ก้อนเนื้อเล็กๆ นี้ทางการแพทย์เรียกว่า Trigger Point (ทริกเกอร์ พ้อยท์) หรือจุดกดเจ็บ ซึ่งจะมีอาการที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ป่วยโรคปวดเรื้อรังคือ
1.ปวดหัวข้างเดียวบริเวณขมับ หน้าผาก หรือกระบอกตา โดยมีอาการสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทานยาแก้ปวดก็ไม่หาย
2.ปวดร้าวลึกๆ บริเวณคอ บ่า สะบัก และหลัง โดยเฉพาะเมื่อเริ่มนั่งทำงานนานๆ หรือใช้คอมพิวเตอร์
3.เริ่มมีอาการชาที่ปลายนิ้วมือ
4.ลักษณะอาการปวดเป็นๆ หายๆ มีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
ด้วยวิธีรักษาแบบ Trigger Point Therapy จะทำให้จุดกดเจ็บดังกล่าวคลายตัวเป็นกล้ามเนื้อปกติได้โดยไม่ต้องพึ่งยา วิธีดังกล่าวนี้ต้องใช้แพทย์อายุรเวทที่ได้ศึกษาทฤษฎีด้านกายวิภาคศาสตร์และมีความเข้าใจโครงสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นประสาทเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องผ่านการฝึกปฏิบัติด้านหัตถเวชอย่างน้อย 5 ปี เพื่อที่นิ้วมือแข็งแรงพอที่จะกดเข้าไปลึกถึงจุดกดเจ็บได้
โดยการรักษาแบบ Trigger Point Therapy มีขั้นตอนการรักษาดังนี้คือ ตรวจกล้ามเนื้อเพื่อหาตำแหน่งของจุดกดเจ็บ (Trigger Point) จากนั้นใช้ความร้อนในการทำให้กล้ามเนื้อมัดบนคลายตัว เพื่อทำให้การรักษาให้ขั้นต่อไปทำได้ลึกถึงตำแหน่งจุดกดเจ็บ
เมื่อกล้ามเนื้อมัดบนคลายตัว จะใช้การกดจุด ในการขยับจุดกดเจ็บให้เคลื่อนจากตำแหน่งที่กดทับเส้นเลือดและเส้นประสาท กดกระตุ้นให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงในบริเวณที่ถูกกดทับเพื่อรักษาและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
ถัดมาคือการใช้ JOINT MANI PULATION เพื่อสลายหินปูน ทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นปกติ สุดท้ายใช้เทคนิค Myotherapy เพื่อการกำจัดพังผืดที่ยึดเกาะบริเวณกล้ามเนื้อ และคลายกล้ามเนื้อส่วนบน
การรักษาด้วยเทคนิค Trigger point Therapy นี้โดยปกติจะใช้ระยะเวลาประมาณ 8 สัปดาห์ และเมื่ออาการปวดหายไป แพทย์อายุรเวทผู้รักษาจะสอนท่าบริหารเพื่อการยืดกล้ามเนื้อหลังการทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการกลับมาเกิดของจุดกดเจ็บ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดในอนาคต
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ