ภาพที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทย คือวิถีของการพึ่งอาศัยธรรมชาติของคนในพื้นที่ต่าง ๆ หากเป็นชุมชนที่มีแหล่งน้ำ เราก็จะพบกับภูมิปัญญาชาวบ้านในการออกหาอาหารในแต่ละฤดูกาล
ช่วงนี้ที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มีชาวบ้านออกหาหอยหาปลากันอย่างคึกคัก เรือท่องเที่ยวที่ล่องออกไปก็จะได้ชมความงดงามจากวิถีอันเรียบง่ายนี้
เส้นทางท่องเที่ยวในโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ ได้นำเรามาถึงจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเป้าหมายของสายกรีน จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่
สำหรับการล่องเรือชมธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา ดูและและจัดการโดย “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมการท่องเที่ยวสัตว์ป่าตำบลระบำ” ต.ระบำ อ.ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
พื้นที่อ่างเก็บน้ำทับเสลามีความกว้างใหญ่ไพศาล งดงามด้วยฉากทิวเขาสลับซับซ้อน พื้นที่นี้อยู่ติดกับแนวป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ซึ่งครอบคลุม 3 จังหวัด ทั้งกาญจนบุรี ตาก และอุทัยธานี
ช่วงเวลาที่เราจะพบกับเหล่าสัตว์ป่าได้มากจะอยู่ในช่วงเช้าและเย็น แต่วันนี้เราเข้ามาในพื้นที่ในเวลาที่อาจจะสายไปสักหน่อย จึงทำใจมาแล้วว่า แม้ไม่ได้เจอสัตว์ป่า ก็ยังอยากเข้ามาชื่นชมความงดงามในช่วงเวลาที่แตกต่าง
เมื่อมาถึงท่าเรือวังทอง จะพบลานกว้างริมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวคอยให้คำแนะนำถึงกฎกติกาต่าง ๆ ก่อนจะพาเราไปยังเรือลำน้อย ๆ บริเวณชายฝั่งวันนี้มีฝูงนกยืนเรียงกันอย่างสงบนิ่ง อีกกลุ่มเป็นฝูงแพะที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้
เมื่อเรือออกจากฝั่งไปไกล เราได้พบกับประมงน้ำจืดแบบพื้นบ้าน ทั้งการยกยอ และหาหอย ซึ่งยอของที่นี่มีหลากหลายขนาด บ้างก็มีขนาดใหญ่ยักษ์ แต่ออกแบบคันโยกด้วยกลไกแบบบ้าน ๆ บ้างก็เป็นยอที่ใช้แรงคนยก ที่น่าทึ่งมากเห็นจะเป็นคนที่ยืนแช่น้ำจนแทบจะจมไปกับยอ ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ ตลอดชั่วโมงหนึ่งที่เราล่องไป จึงรู้สึกได้ถึงความใจเย็น แบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป
เส้นทางทางล่องเรือในอ่างเก็บน้ำ จะออกจากฝั่งหนึ่งไปจนถึงอีกฝั่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ชายป่าห้วยขาแข้ง มีโค้งเว้าของแนวตลิ่งให้เรือเลาะเข้าไป แต่ก็ต้องทิ้งระยะให้ห่างจากฝั่งพอสมควร เพื่อไม่เป็นการรบกวนกันและกัน แม้รู้ดีว่าจะไม่พบสัตว์ป่าออกมาในช่วงเวลานี้ แต่ก็ยังใจชื้นกับบรรยากาศโดยรอบ ในวิถีอันเงียบสงบนี้ ยังมีบรรดานกน้อยหรือนกน้ำออกหากินไปทั่ว
ในความไม่คาดหวัง ก็ยังพอได้สมหวังอยู่บ้าง ละมั่งตัวน้อย และน่าจะเป็นตัวเดียวในช่วงเวลานี้ มันออกมาจากพงหญ้ารก ๆ จ้องมองมาที่ลำเรือเพียงแวบเดียว เดาว่าเมื่อได้ยินเสียงคนก็คงตกใจหนีกลับเข้าพุ่มไม้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้เราได้ชื่นใจ ขอยกให้เป็นตัวแทนแห่งป่าที่ออกมาบอกกับเราว่า พวกมันยังสบายดี
เรือที่ค่อย ๆ ล่องผ่าน เมื่อพบกับชาวบ้านก็ได้แวะทักทายบ้าง อย่างคนที่ออกมาหาหอยขม วันนี้มีของกินของขายได้เต็มกะละมังแล้ว ล่องออกไปไกลยังพบกับคนยกยอกระจัดกระจาย จนได้เวลากลับเข้าฝั่ง
เราไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ออกส่องสัตว์ป่าในช่วงเวลานี้ เพราะคณะที่เดินทางมาได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ทั้งกลุ่มที่นั่งรถเข้าไปส่องสัตว์ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และกลุ่มที่ไปดูกิจกรรมในชุมชน เมื่อกลับมารวมตัวกันที่ท่าเรือวังทอง ก็แบ่งปันเรื่องราวให้กันฟัง
แม้จะรู้ดีว่าเหล่าสัตว์ป่าไม่ได้มีเวลาระบุว่าจะออกมาตอนไหน และนี่ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะพบเจอสัตว์ป่าได้ง่าย ๆ แต่การล่องเรือออกไป ก็ได้พบกับภาพที่ยังสะท้อนความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ไม่ใช่แค่ชาวบ้านที่ออกมาหาหอยหาปลา แต่รวมถึงเรื่องราวของการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายได้ที่มอบให้กับชาวบ้านในชุมชน
และมันก็ส่งผลถึงความรักความผูกพัน ความหวงแหนต่อผืนน้ำและผืนป่า ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ เมื่อได้เห็นความมุ่งมั่นของชาวบ้านที่ออกหาปลา ก็บอกตัวเองได้ว่า จะทำสิ่งใด ก็ต้องเต็มใจ และเต็มที่กับมันเสมอ
ออกจากท่าเรือวังทอง มุ่งหน้าไปเข้าป่ากันต่อ ที่ “หุบป่าตาด” อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ผืนป่าอันน่าพิศวงในโถงใหญ่กลางหุบเขา ที่นี่มีต้นตาดขึ้นอยู่มาก จึงเรียกว่า “หุบป่าตาด” พืชชนิดนี้เป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ใบของมันจะแผ่กระจายไปทั่ว
และด้วยสภาพแสงรำไร ทำให้สีสันของผืนป่าแห่งนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง บ้างก็อาจจะเขียวอ่อนเขียวเข้มแบบทั่วไป แต่บางส่วนก็เขียวออกเทา คล้ายกับสีของผาหินที่อยู่ภายในป่าแห่งนี้
นอกจากต้นตาดแล้ว ในหุบป่าตาดยังมีพันธุ์ไม่แปลกตาอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เต่าร้าง เปล้า คัดเค้าเล็ก ขนุนดิน ฯลฯ และที่เป็นขวัญใจชาวหุบไปแล้วคือ “กิ้งกือมังกรสีชมพู” ที่สำรวจพบเป็นครั้งแรกที่หุบป่าตาด
แต่ใช่ว่ามาถึงที่นี่แล้วจะหาชมได้ง่าย ๆ ด้วยขนาดตัวของมันที่เล็กมากพอ ๆ กับ “ตะเข็บ” อีกทั้งยังมีฤดูกาลของมันในช่วงปลายฝนต้นหนาว ราวสิงหาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี
แม้จะไม่ได้เจอกับเจ้าบ้านผู้มีความน่าอัศจรรย์ แต่ทุกครั้งที่ได้เดินเล่นในหุบป่าตาดก็ยังรู้สึกสนุกเหมือนอยู่ในดินแดนปริศนา เป็นสวนป่ากลางเขาที่ต้องผ่านถ้ำมืด ๆ ระยะสั้นเข้ามา เดินผ่านป่ามาแล้วก็จะเจอโถงหน้าผาที่คล้ายถ้ำอันแสนงดงาม
อุทัยธานี ดินแดนที่ฮีลใจสายเขียวได้ดี ทั้งผืนน้ำ ผืนป่า หรือทิวเขา มองไปทางไหนก็ชื่นใจ ไม่ว่าฤดูกาลนี้ หรือช่วงเวลาใด ภาพที่ได้ชื่นชมก็รื่นรมย์สมใจนักเดินทาง
กิจกรรมนั่งเรือชมธรรมชาติ ดูสัตว์ป่า บริเวณอ่างเก็บน้ำทับเสลา
ค่าบริการเหมาลำ 650 บาทต่อรอบ (เรือ 1 ลำ นั่งได้ 3 ท่าน)
ช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเช้า เวลา 06.00-09.00 น.
ช่วงเย็น เวลา 15.00-17.30 น.
กิจกรรมนั่งรถชมธรรมชาติดูสัตว์ป่าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
เวลา 09.00-16.00 น. (รถ 1 คัน นั่งได้ 6 คน ราคา 1,300 บาท)
กิจกรรมศึกษาสัตว์ป่าบ้านต้นไม้ไพรงาม
เวลา 16.30-07.00 น. โฮมสเตย์หลังละ 1,500 บาท จำนวน 2 ท่าน (พร้อมอาหาร 2 มื้อ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บุญเลิศ เทียนช้าง (ท็อป) 0927875461
ทองคำ 0641527625