เติมสีสันเที่ยวแก่งกระจานปลายปี หนาวนี้ชิลกว่าเดิม “เพ ลา เพลิน เดอะเจอร์นีย์” ผนึกกำลังเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว จัด “Camping Market” ตลาดกางเต็นท์ ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สร้างสรรค์กิจกรรมเก๋ทุกวันเสาร์ เปิดตลาดชิม ช้อป ชิล เชื่อมโยงชุมชนและสิ่งแวดล้อม สานพลังท่องเที่ยวยั่งยืน โชว์ไฮไลต์ “โอ มา กะ เสพ” Chef’s Table ยกระดับวัตถุดิบเมืองเพชร ตอกย้ำภาพลักษณ์เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารในเครือข่าย UNESCO

“เพ ลา เพลิน เดอะเจอร์นีย์” อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว อาทิ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวแก่งกระจาน สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย และภาคชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดเพชรบุรี จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ โครงการ Camping Market ตลาดกางเต็นท์ ณ เพ ลา เพลิน เดอะเจอร์นีย์ แก่งกระจาน รวมกิจกรรมสร้างสรรค์ ทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนธันวาคม 2566 เชื่อมโยงผลผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชน เสน่ห์และภูมิปัญญาในพื้นที่อุทยานมรดกโลกแก่งกระจาน

โดยพิธีเปิดโครงการเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก ดร.สันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเปิดโครงการ  โดยมี “สมฤดี จิตรจง” รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดในประเทศ “วันเพ็ญ มังศรี” รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

“พรทิพย์ อัษฎาธร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จํากัด กล่าวว่า เพ ลา เพลิน เดอะ เจอร์นีย์ แก่งกระจาน  เป็นที่พักและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ที่ต่อยอดมาจาก “เพ ลา เพลิน” บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพฤษศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขภาพ และวัฒนธรรม มาสู่พื้นที่แก่งกระจาน โดย “เพ ลา เพลิน เดอะเจอร์นีย์” แก่งกระจาน  มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ธรรมชาติ และสุขภาพ เชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชน วิสาหกิจชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว และเยาวชนคนรุ่นใหม่

โครงการ Camping Market ตลาดกางเต็นท์ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ ชุมชน หน่วยงานในพื้นที่ สู่โอกาสในการได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ การตระหนักรู้ในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการจัดกิจกรรมทุกวันเสาร์ ณ ลานกินกรรม เพ ลา เพลิน เดอะเจอร์นีย์ แก่งกระจาน นำเสนอจุดไฮไลต์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอิน ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศธรรมชาติ นั่งเล่น เดินชอปปิ้ง และเพลิดเพลินกับการแสดงและเสียงดนตรี ตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น. ประกอบด้วย 7 โซน

1.จุดเรียนรู้ และ นิทรรศการกึ่งถาวร

ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิถีการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เช่น จุดเรียนรู้เกี่ยวกับการคัดแยกขยะ นิทรรศการ Fast Fashion ที่มีเสื้อผ้าและของใช้มือสองมาต่ออายุการใช้งาน ด้วยการหาเจ้าของใหม่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงขยะและความฟุ่มเฟือยจากสินค้าแฟชั่นที่มาไวไปเร็ว จนสร้างขยะและภาระต่อโลกนี้อีกมหาศาล

2.โซนตลาดและร้านค้า

แบ่งปันความสุขจาก “คนปลูก - คนทำ” สู่ “คนกิน - คนใช้” กับเหล่าพืชผัก ผลไม้เกษตรอินทรีย์ในจังหวัดเพชรบุรี สดใหม่จากสวน และเมนูอาหารเลิศรส จากเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร ที่ได้รับการการันตีจากยูเนสโก (UNESCO) และยังได้รับการขนานนามจากเมืองสามรสแห่งนี้ นอกจากนั้นสำหรับงานศิลป์ งานทำมือ และงานคราฟต์ ก็มีเหล่าศิลปินตั้งแต่รุ่นเก๋าชั้นครู ช่างสิบหมู่เมืองเพชร ไปจนถึงศิลปินรุ่นใหม่ สามารถมาใช้พื้นที่นี้ในการนำเสนอผลงานและทำการค้าการขายกับนักท่องเที่ยวได้

3.ฐานกิจกรรมและ workshop

พื้นที่แห่งการเรียนรู้และลงมือทำกับตัวอย่างกิจกรรม เช่น ฐาน Workshop ECO-PRINT ฐานกิจกรรม องค์ความรู้ด้านความยั่งยืน (Sustainability)

4.เวทีกิจกรรม

การแสดงจากศิลปิน เยาวชน และเวทีเสวนา

5.โอ-มา-กะ-เสพ เชฟส์ เทเบิ้ล (Chef’s Table)

“เพชรบุรี” เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์โลกด้านอาหาร ประจำปี 2564 (City of Gastronomy) หนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ในโครงการ “Camping Market” จึงนำเสนอแง่มุมที่น่าสนใจทางด้านอาหาร ด้วยการรังสรรค์จากเชฟโย - กริชณรงค์ จันทร์ปลูก จากร้านรัญจวนใจ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในคอร์ส “โอ-มา-กะ-เสพ” เชฟส์ เทเบิ้ล  ที่นำวัตถุดิบท้องถิ่นเมืองเพชร มาเปิดประสบการณ์ด้านรสชาติให้กับทุกคน

โดยเสาร์แรกของเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เชฟได้นำเสนอเมนูอาหาร ออกสตาร์ทด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยในชุด “เปิดประตูเมืองเพชร” จานเปิดลิ้นจากวัตถุดิบอาหารจากอำเภอหน้าด่านชายฝั่งทะเลเมืองเพชร คลองโคนและบ้านแหลม “ปานีปูรีหลนหอยดอง” เสิร์ฟคู่กับผักกูด” และ “ปอเปี๊ยะครีมชีส” ที่ใช้ใบชะครามแทนผักโขม รสชาติละมุน ลงตัว เป็นที่ถูกใจ ตามมาด้วย “คอหมูย่างพริกพราน” เสิร์ฟคู่ผักย่าง โดยนำ “พริกพราน” จาก อ.เขาย้อย วัตถุดิบเอกลักษณ์ของชาวไทยทรงดำ หรือลาวโซ่ง มีลักษณะคล้ายพริกไทย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เชฟได้นำมาดัดแปลงให้ครบรส โดยใช้คอหมูหมักกับซอสพริกพราน และนำไปย่างกับเตาถ่าน กินคู่กับผักย่าง รสชาติจัดจ้านกำลังดี

อีกเมนูหลักที่มีความเข้มครบเครื่อง คือ “ข้าวบุหรี่ กับ แกงบุมใบ” เสิร์ฟมาพร้อมกับอาจาดไหลบัว ตัวข้าวประกอบด้วยเครื่องเทศมากมาย เช่น หญ้าฝรั่น  ลูกกระวานเทศ กานพลู อบเชย เนยฝรั่ง ลูกผักชี พริกไทย ยี่หร่า ฯลฯ กินคู่กับแกงบุมใบเป็นแกงโบราณของไทย ที่มีลักษณะคล้ายแกงอินเดีย นิยมแกงกับเนื้อวัว ใส่เครื่องเทศหลายชนิด บันทึกเกี่ยวกับแกงชนิดนี้ที่เก่าที่สุด อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 รสชาติเปรี้ยวนำหวานตามเค็ม กินคู่กับข้าวบุหรี่ ตำรับเครื่องต้นสมัยพระพุทธเจ้าหลวง ตัดรสด้วยอาจาดไหลบัว

ปิดท้ายที่ “ไอศกรีมหม้อแกง” การผสมผสานขนมหวานเมืองเพชรออกมาในรูปแบบไอศกรีม รสชาติหอมละมุน เสิร์ฟคู่กับทองม้วนกรอบ เข้ากันได้ดี

6.ศาลาพักคอย และท่ารถ

ภายในอาคารให้ความรู้เรื่องเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงท้องถิ่นเชิงอนุรักษ์และผจญภัย เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากโครงการสู่ท้องถิ่น โดยจะมีรถสองแถวบริการ 2 สาย ได้แก่ 1) รถบริการ เพ ลา เพลิน – พะเนินทุ่ง และ 2) รถบริการ เพ ลา เพลิน – เขื่อนแก่งกระจาน

7.กิจกรรมนอกพื้นที่

การจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) นอกพื้นที่เพ ลา เพลิน เดอะ เจอร์นีย์ ณ อาคารเอนกประสงค์ จุดให้บริการบ้านกร่างแคมป์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยเป็นโครงการปรับปรุงทาสีและซ่อมแซมอาคารดังกล่าวที่ทรุดโทรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนได้ใช้ในการทำกิจกรรม นั่งพักคอย หรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้

ทั้งนี้กิจกรรมในโครงการ “Camping Market” จะมีหมุนเวียนไปในทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนธันวาคม โดยนำเสนอคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วย

วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2566 : สัปดาห์แห่งความยั่งยืน “Journey of Art”

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566 : สยาม สบาย สถาน วัฒนธรรม ภูมิปัญญาสุขภาพ Living & Wellness

วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2566 : The King’s Journey ตามรอยพระราชา

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2566 : แก่งกระจาน Forest Music ดนตรีห่มป่า Bird opera ขับกล่อมพงไพรด้วยเสียงเพลง

ทั้งนี้คาดว่า โครงการ “Camping Market” ตลาดกางเต็นท์ จะช่วยกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอแก่งกระจาน ได้อย่างน้อย 1,000 คนต่อสัปดาห์ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในโครงการไม่ต่อกว่า 500,000 บาทต่อสัปดาห์ รวมทั้งสร้างการรับรู้ กิจกรรมแนวใหม่ และผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ต่อยอดระยะยาวของจังหวัดเพชรบุรี เช่น เส้นทางการท่องเที่ยวดูนก เส้นทางการท่องเที่ยว กิจกรรม Chef’s Table สนับสนุนอัตลักษณ์อาหารถิ่น วัตถุดิบชุมชน เป็นต้น