รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง “ปลดล็อคเทคนิคการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วย นวัตกรรม IVF” เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์

วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566

รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง “ปลดล็อคเทคนิคการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วย นวัตกรรม IVF” เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์


โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง เล็งเห็นความต้องการในการมีบุตรในปัจจุบัน และพบว่าคู่สมรสหลายคู่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากทั้งที่อายุน้อย จากสถิติพบว่าภาวะมีบุตรยากมีสาเหตุเกิดจากฝ่ายหญิงมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ฝ่ายชาย 25 เปอร์เซ็นต์ และบางส่วนพบสาเหตุจากทั้ง 2 ฝ่าย 

ดร. ฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง กล่าวว่า ในปัจจุบันมีคู่สมรสทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามารับคำปรึกษาและรักษาภาวะมีบุตรยากเพิ่มมากขึ้นด้วยหลายปัจจัย อาทิเช่น สภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ทำให้หลายคู่พร้อมที่จะมีบุตรเมื่อตอนอายุมากขึ้น หรือพบปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัวต่างๆ ที่ส่งผลให้ความสามารถในการมีบุตรเองตามธรรมชาติลดลง หรือมีความกังวลว่าเมื่อตั้งครรภ์แล้วจะมีความเสี่ยงสูงที่บุตรจะมีปัญหาโรคทางพันธุกรรม เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และนวัตกรรมการทำ IVF จึงเป็นที่สนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมืองเล็งเห็นความสำคัญและเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี ที่ศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ (Excellent IVF Center) พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ นักวิทยาศาสตร์ พยาบาล ผสานกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ขั้นสูงด้วยห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย เพื่อการแก้ไขปัญหาภาวะผู้มีบุตรยากได้อย่างตรงจุด สามารถให้คำปรึกษาคู่สมรสที่กำลังวางแผนจะมีบุตร ตรวจประเมินความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก

อีกทั้ง ยังสามารถตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมตัวอ่อน ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้วเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คู่สมรสมีบุตรที่สมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคทางพันธุกรรมอีกด้วย นอกจากนี้ที่ศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องทางนรีเวชที่ช่วยให้การรักษากรณีจำเป็นต้องทำการผ่าตัดก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อยกระดับความสำเร็จของเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์และให้บริการคู่สมรสแบบองค์รวมอย่างแท้จริง

พญ.วีณา ครุฑสวัสดิ์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาที่ถูกจุดจะช่วยให้คู่สมรสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์มากขึ้นในการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF (In-vitro Fertilization) ปัจจุบันนี้นอกจากการที่ผู้หญิงมีบุตรที่อายุมากขึ้น จะส่งผลให้มีบุตรยากและมีโอกาสแท้งมากขึ้นแล้ว สภาพแวดล้อมมลพิษสารเคมีต่างๆ ก็ส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตรทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ดังนั้นการเข้ารับคำปรึกษาเมื่อวางแผนจะมีบุตรจึงมีความจำเป็นอย่างมากในการประเมินปัญหาและความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก โดยจะมีการตรวจคุณภาพน้ำเชื้อในผู้ชายด้วยระบบคอมพิวเตอร์(CASA) และหาเปอร์เซนต์ความสมบูรณ์ของอสุจิระดับดีเอ็นเอ (Sperm DNA fragmentation) หากมีปัญหาก็จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษ (Sperm MACs) ในการคัดเลือกอสุจิที่มีคุณภาพดีมาปฏิสนธิกับไข่ นอกจากนี้ในฝ่ายหญิงจะมีการตรวจอัลตราซาวน์ทางนรีเวช ตรวจหาความผิดปกติของมดลูก หรือรังไข่ และเจาะเลือดตรวจฮอร์โมนการทำงานของรังไข่ด้วย
 
เมื่อเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วแล้ว ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้ ยกตัวอย่างเช่น การฟื้นฟูรังไข่ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ในกรณีรังไข่เสื่อม การทำ ERA Testing เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการย้ายตัวอ่อน เป็นต้น นอกจากนี้ทางศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมืองยังมีเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ความผิดปกติของโครโมโซมตัวอ่อน PGT (Preimplantation Genetic Testing) ด้วยเทคนิค Next Generation Sequencing (NGS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในการตรวจคัดกรองโครโมโซมของตัวอ่อน ช่วยให้การทำเด็กหลอดแก้วมีอัตราความสำเร็จสูงขึ้น เพราะเมื่อเราคัดเลือกตัวอ่อนที่ดีที่สุดแล้ว โอกาสสำเร็จย่อมสูงกว่าการย้ายตัวอ่อนที่เราไม่ทราบผลโครโมโซม ยิ่งไปกว่านั้นเราจะมั่นใจได้ว่าการตั้งครรภ์จะดำเนินไปอย่างดี ลดความเสี่ยงในการแท้ง ตลอดจนคลอดทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไม่มีความผิดปกติทางโครโมโซม ดังนั้นการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนร่วมกับการทำเด็กหลอดแก้ว จึงถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์และช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ