'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด แนะ เทคนิคบริหารจัดการความเหนื่อยล้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด แนะ เทคนิคบริหารจัดการความเหนื่อยล้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ


กล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscle) เป็นอวัยวะที่หนักถึง 40% ของน้ำหนักตัว โดยมีจำนวนมากถึง 696 มัด มีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย การหายใจ และการทรงตัว ซึ่งการทำงานหรือทำกิจกรรมอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ง่ายต่อการเกิดความอ่อนล้าและปวดเมื่อยได้ เราจึงควรหาเวลาและวิธีผ่อนคลายอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความเมื่อยล้าจนเกินไป แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและกายภาพบำบัด “กรณิภา สุริยเลิศ” มาแนะ “เทคนิคบริหารจัดการความเหนื่อยล้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ” กับผลิตภัณฑ์ ‘บาธ แอนด์ มาสสาจ ออยล์” (Bath & Massage Oil) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยที่มาเผยเคล็ดลับการผ่อนคลายและจัดการความเหนื่อยล้าตามแบบของตนเอง อาทิ  ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, พลอยพยัพ ศรีกาญจนา และ วิชาดา พูลผล

กรณิภา สุริยเลิศ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและกายภาพบำบัด ได้แนะเทคนิคบริหารจัดการความเหนื่อยล้าสำหรับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ ว่า ““อาการปวดเมื่อยร่างกายของแต่ละคนนั้นส่วนใหญ่แล้วจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่หลายปัจจัย เช่น ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต กิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน รวมถึงช่วงอายุของแต่ละบุคคล ซึ่งมักส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยตามบริเวณต่างๆ ของร่างกายที่มักพบได้บ่อย คือ คอ บ่า ไหล่ สะบัก และหลัง หรือที่รู้จักกันว่าออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) โดยอาการออฟฟิศซินโดรมนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การนั่งทำงานในท่านั่งที่ไม่เหมาะสม, ลักษณะการทำกิจกรรมที่ไม่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ความเครียดจากการทำงาน และการพักผ่อนไม่เพียงพอ

อาการปวดกล้ามเนื้อ (Muscle Pain) คือ ภาวะตึง ปวดหรือการอักเสบเรื้อรังของกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งตามกล้ามเนื้อมัดเดียวหรือหลายมัด มักมีสาเหตุจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ หรือมากเกินไปจากการทำกิจกรรมประจำวัน หรือการเคลื่อนไหวในท่าเดิมซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดความตึงเครียดสะสมที่กล้ามเนื้อ เช่น การสะพายกระเป๋าข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ, การใส่รองเท้าส้นสูง, การพิมพ์งานหน้าจอคอมพิวเตอร์, การใช้มือถือ รวมไปถึงการออกกำลังกาย เนื่องจากเวลาเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อ จะเกิดกระบวนการต่างๆ ในการดึงพลังงานของกล้ามเนื้อออกมาใช้ และเกิดกรดแลคติคไปสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ ทำให้มีอาการกล้ามเนื้อล้า (Muscle Fatigue) ตามมา โดยอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย

การนวด (Massage) เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางกายภาพบำบัดใช้ในการบรรเทาอาการปวดที่ไม่รุนแรงมากนัก มีหลายเทคนิค เช่น ลูบตามผิวหนัง บีบ คลึง กดจุด เคาะ ทุบ หรือดึง การนวดนอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความตึงเครียดแล้ว ยังเป็นการรักษาทางเลือกที่อาจช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้ อาทิ

·        ลดอาการเกร็งกล้ามเนื้อ ให้ความตึงลดลง

·        ลดการยึดติดของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและแผลเป็น

·        เพิ่มการไหลเวียนกลับของเลือดและน้ำเหลือง

·        เพิ่มการเคลื่อนไหวข้อต้อ ข้อยึดติดที่ไม่รุนแรง

·        ลดอาการปวดจากการกระตุ้นการหลั่งสารบรรเทาความเจ็บปวด (Endogenous endorphins)

·        เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลและความตึงเครียดของจิตใจ

ส่วนหลักการเลือกใช้น้ำมันนวด (Bath & Massage oil) ควรพิจารณาจากเบสน้ำมันนวดตัว หรือน้ำมันนำพา (Carrier oil) ที่มาจากน้ำมันสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น อาทิ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil), น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil), น้ำมันถั่วอินคา (Inca Inchi Oil), น้ำมันมะกอก (Olive Oil) เป็นต้น ควบคู่กับการใช้ศาสตร์แห่งกลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เพื่อสร้างความผ่อนคลายได้ และสามารถผสมน้ำมันนวด (Bath & Massage Oil) ลงในน้ำอุ่นสำหรับแช่ตัว นอกจากจะช่วยคลายกล้ามเนื้อและความเครียดแล้ว ยังสามารถบำรุงผิวให้เนียนุ่มชุ่มชื้นไปพร้อมกันได้”

‘ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา THANN มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ขอแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวโดยเฉพาะ อุดมด้วยคุณประโยชน์ของสารสกัดธรรมชาติจาก ‘น้ำมันรำข้าว’ (Rice Bran Oil) และสารสกัดจาก ‘ชิโซะ’ (Shiso) ที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ‘ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป

“น้ำมันรำข้าว” (Rice Bran Oil) สิ่งมหัศจรรย์ใกล้ตัวที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งด้านโภชนเภสัช อาหาร หรืออุตสาหกรรมความงาม อุดมด้วยวิตามินอีในกลุ่มโทโคไตรอีนอล (Tocotreienol) และโทโคฟีรอล (Tocopherol) รวมถึงสารแกมม่า-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) ซึ่งพบเฉพาะในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Anti-oxidant) ได้ดีกว่าวิตามินอีทั่วไปถึง 6 เท่า รวมถึงปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกแสงแดดทำลาย ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน

“ชิโซะ” (Shiso) พืชที่อุดมด้วยสารสำคัญอันมีประโยชน์ อาทิ เช่น  โรสแมรินิค แอซิด (Rosemarinic Acid), แอล-เพอริลลาดีไฮด์ (L-Perilladehyde) และฟีนอล คอมพาวด์  (Phenol Compound) โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ทรงประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ด้วยสัดส่วนของวิตามิน A (มากกว่าผลกีวีถึง 300 เท่า),วิตามิน C (มากกว่าผลเลมอนถึง 160 เท่า) และวิตามิน E สูง พร้อมวิตามิน B1, B2, B6, K, แร่ธาตุและโปรตีนหลากชนิด สารสกัดจากชิโซะยังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสารสกัดจากชิโซะนำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วย “นาโนเทคโนโลยี” ปราศจากการใช้สารเคมีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้อนุภาคขนาดนาโนเมตร (10-9) ทำให้ได้อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เกิดประสิทธิภาพการบำรุงอย่างล้ำลึก

 




บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ