รู้เฟื่องเรื่อง "สเต็มเซลล์" ช่วยเสริมความงามได้จริงหรือ ?

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รู้เฟื่องเรื่อง


Stem cells หรือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ที่แบ่งตัวให้เกิดเป็นเซลล์ทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ในร่างกายของคนเรามีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่ในทุกอวัยวะทั้งผิวหนัง หัวใจ สมอง ตับ ไต ฯลฯ เนื่องจากเซลล์ต้นกำเนิด มีความสามารถในการแบ่งตัวให้เป็นเซลล์ ต่างๆ ได้หลายชนิด
ดังนั้น ทางการแพทย์จึงมีผู้สนใจคิดจะนำเซลล์ดังกล่าวมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ เซลล์ต้นกำเนิดมีสองประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดที่ได้มาจากตัวอ่อน กับเซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อน ซึ่งในปัจจุบันการรักษาต่างๆ มักใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อนมาก กว่าซึ่งมีการนำเซลล์ดังกล่าวมาปลูกถ่าย เพื่อใช้รักษาโรคหลายชนิดโดยล้วนแต่อยู่ในระยะวิจัยทั้งสิ้น
ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการอำนวยการ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า ในปัจจุบันการรักษาโรคต่างๆ โดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากตัวอ่อนมีเฉพาะโรคทางโลหิตวิทยาเท่านั้นที่เป็นมาตรฐานในการรักษาโรคแล้ว โรคอื่นๆ ทั้งหมดจะถือเป็นการวิจัยแพทย์ผู้ให้ การรักษาผู้ป่วยด้วยเซลล์ดังกล่าว จะต้องใช้ในการรักษาตาม มาตรฐานที่แพทยสภายอมรับเท่านั้น
"ส่วนการวิจัยปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดในผู้ป่วยจะต้องได้รับอนุมัติก่อน โดยผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นผู้เชี่ยว ชาญเฉพาะสาขาที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา และได้รับการขึ้นทะเบียนให้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเท่า นั้น ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากมีการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงเกี่ยวกับการรักษาด้วยเซลล์ต้น กำเนิดจำนวนมากทำให้ประชาชนหลงเชื่อเสียเงินเพื่อการรักษา นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วยังอาจเกิดอันตรายรุนแรงกับผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ มีกระบวนการหลอกประชาชนว่าสามารถนำเซลล์ต้นกำเนิดจากผลไม้หรือสัตว์มาใช้ทา หรือรับประทาน หรือฉีด เหล่านี้ล้วนแต่ไม่ มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเกิดประโยชน์ชัดเจน"
ดร.นพ.เวสารัช กล่าวต่อว่า สำหรับ Platelet-derived Growth Factor (PDGF) เป็น Growth Factor ที่ได้มาจาก เกล็ดเลือด นำมาใช้รักษาแผลเรื้อรังที่เท้าที่เกิดจากเบาหวาน ซึ่งมีหลอดเลือดเสื่อม ซึ่งใช้ได้ผลดี แต่หากใช้ต่อเนื่องถึง 3 หลอดขึ้นไป โอกาสเสียชีวิตจากโรคมะเร็งจะเพิ่มมากกว่ากลุ่ม ควบคุมถึง 5 เท่า ปัจจุบันมีการลักลอบนำยาเถื่อนชนิดดังกล่าวเข้ามาใช้รักษาผู้ป่วยในประ เทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์ การอาหารและยา และนำมารักษาโรค น้ำเหลืองที่มีเกล็ดเลือดจำนวนมาก เป็นการนำเลือดมาปั่นแยกเอาน้ำเหลืองส่วนที่มีเกล็ดเลือดจำนวนมากมาใช้ในการรักษาโรค เนื่องจากเชื่อกันว่าเกล็ดเลือดมี Growth Factor อยู่ การรักษามาตรฐานของน้ำเหลืองที่มีเกล็ดเลือด จำนวนมาก คือใช้ในภาวะที่ร่างกายขาดเกล็ดเลือด เช่น โรค ไข้เลือดออก เป็นต้น แต่ผู้มีน้ำเหลืองที่มีเลือดจำนวนมาก มาใช้ในการรักษาโรคอื่นๆ และเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ เป็น Platelet-Rich Plasma (PRP) เช่น นำมารักษาภาวะ บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางผิวหนังมีผู้นำเอา PRP มาใช้ในการเสริมความงาม โดยตั้งชื่อว่า Vampire Facelift จากการศึกษาไม่พบว่าทำให้ผิวข้างที่ฉีด PRP ดูดีกว่าข้างที่ไม่ได้ฉีดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอก จากนั้นกระบวนการเตรียม PRP อาจมีการปนเปื้อน เชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อขึ้นมาได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ในปัจจุบัน เครื่องมือ สำเร็จรูปที่ใช้ในการเตรียม PRP ยังไม่ได้รับอนุญาต ให้นำมาใช้กับผู้ป่วยในประเทศไทย
"การรักษาโรคต่างๆ ด้วยเซลล์ต้นกำเนิด ผู้ป่วยควรจะสอบถามแพทย์ผู้ให้การรักษาก่อน ว่าแพทย์ได้รับอนุมัติจากแพทยสภาให้ทำการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการรักษาแล้วหรือ ยัง ส่วนการรักษาด้วย Growth Factor ควร จะสอบถามว่าเป็นการรักษามาตรฐานหรือไม่ ยาได้ผ่านการตรวจสอบขององค์การอาหารและยาหรือไม่ หรือเป็นยาลักลอบนำเข้า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของท่านเอง"



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ