เอมี่ กุลโรจน์ปัญญา ผู้อำนายการสื่อสารองค์กรและนโยบาย เอเชียแปซิฟิก อูเบอร์ บริษัท อูเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทุกวันในกรุงเทพฯ ผู้คนใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมงอยู่บนถนนเพื่อเดินทางไปประกอบกิจธุระของตัวเอง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง Uberให้ความสำคัญกับประสบการณ์เป็นอย่างมาก และนี่คือเหตุผลว่าทำไมปี 2559 จึงเกี่ยวกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสารและคนขับด้วยการตอบคำถามง่ายๆ ที่มีอยู่ ซึ่งเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะมีรถสักคันรอให้บริการเราอยู่ในเวลาที่เราต้องการ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนในครอบครัวและคนที่เรารักจะเดินทางอย่างปลอดภัย และถ้าเราเป็นผู้ร่วมขับบนแพลทฟอร์มของ Uber เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะมีผู้โดยสารที่จะไปทางเดียวกับเรา
ดังนั้น คำตอบของเราคือการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานบนแอพที่เราเปิดตัวในปีนี้ เช่นการตั้งเวลาเดินทางล่วงหน้า (Scheduled Rides) ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเรียกรถได้ตั้งแต่ 15 นาที ไปจนถึง 30 วันล่วงหน้า อีกทั้ง เรายังได้พัฒนาฟีเจอร์ บัญชีร่วมสำหรับครอบครัว Family Profiles ที่ให้คุณดูแลการเดินทางให้สมาชิกในครอบครัวหรือคนที่รักสูงสุดถึง 5 คนไปยังบัญชีผู้ใช้งาน Uber ของคุณเพื่อสร้างความอุ่นใจในระหว่างใช้บริการโดยสามารถติดตามการเดินทางของสมาชิกในครอบครัวขณะที่ใช้บริการจาก Uber ได้แบบเรียลไทม์และยังจัดการเรื่องค่าโดยสารได้อีกด้วย ด้านฟีเจอร์ที่พัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์เยี่ยมๆ ให้กับผู้ร่วมขับ เช่น จุดหมายของคนขับ (Driver Destinations) ช่วยให้ผู้ร่วมขับสามารถระบุตำแหน่งที่เขากำลังมุ่งหน้าไปและรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปทางเดียวกันได้ ขณะที่ Telematicsเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมขับ เช่น ตรวจสอบความเร็วของยานพาหนะ และคุณภาพในการขับรถ ทั้งหมดนี้มีความสำคัญมากเพื่อให้ความปลอดภัยกับทุกคนในรถ
“ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เรากำลังสร้างความน่าเชื่อถือด้านการขนส่งแก่ทุกคนและทุกๆ ที่ให้ใกล้ความจริงมากขึ้น โดย uber ได้เปิดให้บริการในเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนในพื้นที่ เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกว่า 7 ล้านคนต่อปี Uberยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอบริการขนส่งที่ปลอดภัย ราคาที่เหมาะสม และเชื่อถือได้แก่ผู้สนใจเป็นผู้ร่วมขับในพื้นที่ใช้บริการขนส่งผ่านแอพของเราที่รองรับกว่า 55 ภาษา ซึ่งทางบริษัทจะทำการเปิดตัวแอปสำหรับผู้โดยสารรูปแบบใหม่ที่พร้อมให้บริการในประเทศไทย เดือนธันวาคม 2559 นี้ และในปี 2560 นี้ เรามีแผนจะออกฟีเจอร์และอะไรใหม่ๆ เปิดตัวในตลาดเมืองไทยอีกแน่นอน ”