หลังจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ. ได้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคนใหม่ ภายใต้การนำทัพของ พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์  ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา   ก่อนมีการประกาศแต่งตั้ง พันตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง  เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในการทำงานขององค์กร

                ล่าสุด พลตำรวจตรี ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้เปิดเผยว่า   สคบ.จะยึดหลักให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการ นักธุรกิจอิสระ และผู้บริโภค โดยการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ซึ่งสคบ.จะมีการเข้าไปตรวจสอบธุรกิจของบริษัทขายตรงและตลาดแบบตรงทุกบริษัท เพื่อคัดกรองแบ่งแยกอย่างชัดเจน

ส่วนความคืบหน้าการแก้กฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรงตามร่าง พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ....ที่กำลังดำเนินการกันอยู่นั้น สคบ.จะพยายามผลักดันให้ดำเนินการต่อจนสำเร็จในยุคนี้ โดยมีมุมที่ต้องเร่งทำความเข้าใจและรับมือต่อการจะมีผลบังคับใช้ของกฎหมายใหม่ คือ กรณีถ้ากฎหมายผ่านขบวนการออกมามีผลบังคับใช้ บริษัทผู้ประกอบการต่างๆ ก็จะต้องมีปรับแก้เงื่อนไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

“ปัญหาคือเรื่องของหลักประกัน ว่าจะทำอย่างไรให้สมเหตุสมผล ที่บริษัทจะไม่เดือดร้อน และสามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้ด้วย ขบวนการผลักดันการแก้กฎหมาย ตอนนี้ผ่านวาระหนึ่งไปแล้ว ซึ่งกำลังตั้งกรรมาธิการร่วมโดยมี คุณศิริพล ยอดเมืองเจริญ เป็นประธานกรรมาธิการ และรอวาระที่2-3 อยู่ และสิ่งที่อยากจะทำอีกอย่างคือ การแจ้งเตือนภัยสินค้าและบริการที่ไม่ดีด้วย”

พลตำรวจตรี ประสิทธิ์  กล่าวต่อว่า  ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้น สคบ.จะมีการกวดขันการโฆษณาสินค้าที่เกินจริงมากขึ้น ในทุกรูปแบบ ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะจากสื่อใดก็ตาม เช่น หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ นิตยสาร ในโลกออนไลน์   ซึ่งทาง สคบ.ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบสื่อเหล่านี้โดยเฉพาะแล้ว

อย่างไรก็ตาม  สคบ.จะมุ่งเน้นทำงานเชิงรุกมากขึ้น ในการออกตรวจสอบธุรกิจกิจการที่ได้รับร้องเรียน หรือถ้าไม่มีใครร้องเรียนเมื่อมีการตรวจพบจากการโฆษณาที่เกินจริงก็จะมีการเข้าไปตรวจสอบเช่นกัน

                “ต่อไปทั้งบริษัทธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงที่ทำออนไลน์กันก็จะต้องมาจดทะเบียนให้ถูกต้อง โดยเฉพาะบริษัทขายตรงที่ทำออนไลน์จะต้องมี 2 ใบอนุญาต คือขายตรงและแบบตรงด้วย เพราะการทำออนไลน์ถือเป็นธุรกิจแบบตรง”เลขาธิการสคบ. กล่าวทิ้งท้าย