ช่วงหลายปีมานี้ กระแสคนรักสุขภาพกำลังมาแรงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าในไทยหรือต่างปะเทศ ประชากรโลกต่างหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผัก และผลไม้ปลอดสารพิษ หลายคนคิดกระทั่งแม้แต่จะหยิบอะไรเข้าปากสักชิ้น จะคำนึงถึงคุณค่าทางอาหารที่จะได้รับ โทษมีอะไรบ้าง เพราะปัจจุบันโรคภัยที่มาจากการรับประทานอาหารไม่ถูกสุขลักษณะทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี

อาหารเสริมก็เป็นอีกทางเลือกที่ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มผู้ที่เร่งรีบมีเวลาดูแลตัวเองน้อยเช่นกลุ่มคนวัยทำงานอายุ30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการดูแลตัวเอง หรือคนที่ไม่ชอบทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง แล้วทำให้ขาดสารอาหารบางชนิด ยกตัวอย่างเช่น คนที่ไม่ชอบกินผัก ทำให้ขาดวินตามินบางชนิด ทำให้เกิดทางเลือกใหม่ คือการรับประทานอาหารเสริมชดเชย

ทั้งนี้  การแข่งขันในตลาดอาหารเสริมค่อนข้างจะดุเดือดไม่แพ้กับธุรกิจอื่นๆ  มีหลายบริษัทพยายามสร้างสรรค์โอกาสเข้าไปเจาะตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบริษัทขายตรงหลายแห่งที่มีแรงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ก็พยายามสร้างหนทางออกไปขยายธุรกิจในตลาดใหม่ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจภายในประเทศที่กำลังชะลอตัวอยู่ ณ เวลานี้

                น.ส.ผุสดี สุจิตจร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบลคมอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน แบลคมอร์ส จากออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก โดยได้นำร่องเปิดตัวโคอาล่า ซี วิตามินสำหรับเด็กในเดือนตุลาคม และจะทยอยลอนช์วิตามินสำหรับเด็กอีก 2-3 รายการ โดยปลายปีจะทำการลอนช์วิตามินรวม และต้นปี 2560 จะลอนช์กลุ่มดูแลสมองออกมาเพิ่มเติม

ส่วนช่องทางจำหน่าย  ได้หันมาให้ความสำคัญกับช่องทางร้านเพื่อสุขภาพและอีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดยช่องทางขายหลักๆ ยังเป็นร้านยา มีสัดส่วน 85% อีก 15% เป็นโรงพยาบาลและออนไลน์ โดยฝากขายตามลาซาด้าเซ็นทรัลออนไลน์ แต่เร็วๆ นี้จะเปิดตัวเว็บไซต์ขายสินค้าของบริษัทเอง

                  ขณะที่ในปีหน้า บริษัทฯ จะเพิ่มงบฯทำตลาดมากขึ้น จากปีนี้ใช้เกือบ 100 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดแบบ 360 องศา และยังร่วมกับสถาบัน แบลคมอร์สส่งผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้บุคลากร เภสัช แพทย์ และผู้บริโภค โดยต้นพฤศจิกายนนี้ได้โรดโชว์ตามสถาบันการศึกษา

“ภาพรวมของตลาดในช่วง 1-2 เดือนนี้ ถือว่า ยังชะลอตัวบ้าง ตั้งแต่ต้นปียังเติบโตดี เทียบปีก่อน โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก โดยเฉพาะในการออกสินค้าใหม่   ขณะที่บริษัทแม่ขยายตลาดใหม่ๆ ต่อเนื่อง ปีนี้เพิ่งเข้าไปทำตลาดอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น  ส่วนทาง แบลคมอร์ส ประเทศไทย มียอดขายเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ล่าสุดยังได้สิทธิ์ดูแลตลาด CLMV โดยปลายปีจะขยายตลาดเวียดนาม จากนั้น จะทยอยไปกัมพูชา เมียนมา และลาว”

                น.ส.ทมิตา กิติรัตน์ชัย กรรมการบริหาร บริษัท เอสเอ็ม ที ปริ้นเซส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ความงาม เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่อยู่ในความต้องการของผู้บริโภค ในขณะนี้ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ได้มีการแข่งขันกันพัฒนาสินค้าเพื่อให้มีคุณภาพสูงสุดและสามารถแข่งขันในตลาดได้

เอสเอ็มทีปริ้นเซสจึงได้ให้ความสำคัญในการกระบวนผลิตและการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีประคุณภาพสูง ในการผลิตสินค้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นสบู่ควินนส์ รวมทั้งสินค้ากลุ่มอาหารเสริมทั้งเพื่อความงามและลดน้ำหนัก ทำให้ช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมายอดขายเป็นไปตามที่ตั้งไว้ และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท 

                “ที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้งการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณกว่า 1,000 ราย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศขึ้นประมาณ 1,500 ราย เนื่องจากบริษัทฯ ได้มุ่งใช้กลยุทธ์ด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจบริโภคสินค้า ลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อเกิดความประทับใจและพึงพอใจจึงสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ในจำนวนตัวแทนที่มีอยู่มีกลุ่มที่ทำเป็นอาชีพหลักประมาณ 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% คือกลุ่มที่ทำเป็นอาชีพเสริมและบริโภคสินค้าเอง”