จากภารกิจของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทีมุ่งมั่นพัฒนาปรับปรุงโครงข่ายทางพิเศษปัจจุบันให้มีมาตรฐานที่ดี สามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ใช้บริการรวมทั้งขยายโครงข่ายทางพิเศษโดยการก่อสร้างทางพิเศษสายใหม่ เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ทาง ให้เดินทางด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยตั้งแต่เริ่มเข้าใช้บริการทางพิเศษและตลอดเส้นทางการเดินทางดังสโลแกนที่ว่า "มุ่งมั่นพัฒนาทางพิเศษ เพื่อให้บริการที่ดี มีความคุ้มค่า สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย อย่างยั่งยืน"

            “ณรงค์ เขียดเดช” ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)เปิดเผยว่า หลังเปิดใช้ทางพิเศษศรีรัชวงแหวนรอบนอก เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทางพิเศษเฉลี่ยวันทำการ จำนวน 35,000 เที่ยว/วัน จากการตั้งเป้า 80,000 เที่ยว/วัน คาดว่ายังเป็นช่วงเริ่มต้น คงจะดูไปอีกระยะ 2-3 เดือน อาจจะขยับขึ้นไปอีก และเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ พร้อมทั้งจะเตรียมจะหารือกับ BEM เพื่อกระตุ้นให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นต่อไป

ตอดเสาเข็มด่วนพระราม 3 ปี 60

ส่วนโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 19 กม. ใช้เงินลงทุน 32,000 ล้านบาท ขณะนี้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้เห็นชอบให้โครงการทางด่วนสายนี้เข้าร่วมโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) เพื่อสร้างความโปร่งใสสำหรับโครงการก่อสร้างภาครัฐขององค์กร CoSTคือการจัดให้มีระบบการเปิดเผยข้อมูล ที่เข้าถึงได้และเข้าใจได้โดยง่าย และการจัดให้มีระบบในการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นวัตถุประสงค์ร่วมของทุกฝ่าย ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มความคุ้มค่าและการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการ ก่อสร้างภาครัฐ โดยผลการดำเนินการของ กทพ

สำหรับผลการศึกษาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนพ.ค. 2559 ที่ผ่านมา เหลือแต่การออกแบบรายละเอียดโครงการ ซึ่งขณะนี้คืบหน้ากว่า 80% แล้ว ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำลังพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างการใช้เงินกู้และการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหรืออินฟราสตรักเจอร์ฟันด์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.นี้ จากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ และคาดการณ์ว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ในระหว่างเม.ย.-พ.ค.2560ใช้เวลาก่อสร้าง 39 เดือน จะแล้วเสร็จเปิดใช้ในเดือน ก.ค. 2563

ช่วยแก้ปัญหาปิดซ่อมสะพานพระราม9

ทั้งนี้ สาเหตุที่ กทพ. ต้องเร่งผลักดันโครงการดังกล่าวเนื่องจากปัจจุบัน ทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณดาวคะนองเป็นเส้นทางหลักสายหนึ่งในการเดินทางเข้าใจกลางเมืองโดยต้องผ่านสะพานพระราม 9 เพียงสะพานเดียว ส่งผลให้มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมาก และสะพานมีอายุการใช้งานนานกว่า 30 ปี หากต้องปิดซ่อมเพื่อปรับปรุงจะส่งผลกระทบด้านการจราจรอย่างมาก ดังนั้น โครงการนี้จะสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานพระราม 9 เดิม ถือเป็นสะพานสำรองกรณีต้องปิดซ่อมและเพื่อเป็นการรักษาอายุการใช้งานของสะพานพระราม 9 รวมถึงแบ่งเบาการจราจรอีกด้วย ประกอบกับโครงการมีปัญหา การเวนคืนที่ดินค่อนข้างน้อยเพียงแค่ 6 ไร่ จึงส่งผลกระทบต่อประชาชนไม่มากเนื่องจากใช้ที่ดินเดิมของ กทพ. รวมทั้งยังลดปัญหาการจราจรบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ถนนพระราม 2 และบริเวณใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี

                “แนวเส้นทางโครงการเริ่มต้นที่ กม.10+700 ถนนพระราม 2 เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจรสร้างซ้อนทับบนทางด่วนขั้นที่ 1 จนถึงถนนพระราม 3 ใกล้แยกต่างระดับบางโคล่และบรรจบกับ ทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจะสร้างสะพานใหม่ขนานกับสะพานพระราม 9 ขนาด 8 ช่องจราจร ใช้เวลา 39 เดือน วางแผนเริ่มก่อสร้างเดือนพ.ค2560-ก.ค.2563”

จับมือเอสซีจีฯ เสริมโครงสร้างพื้นฐาน

เมื่อเร็วๆ นี้ กทพ. และ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ร่วมลงนาม ความร่วมมือการวิจัยและพัฒนา นำนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added : HVA) จากวัตถุดิบในประเทศ เสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ร่วมลงนามความร่วมมือการวิจัยและพัฒนา นำนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added : HVA) จากวัตถุดิบในประเทศ เสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศ เสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศ นำร่อง 3 โครงการ ได้แก่ นวัตกรรมกำแพงกั้นเสียงบนสะพานด้วยพลาสติกที่น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง ในราคาถูกกว่าวัสดุเดิม, ตู้เก็บค่าผ่านทางที่ปรับรูปแบบให้ตอบโจทย์ ความต้องการของผู้ใช้งาน และหุ่นยนต์ตรวจสอบสภาพสิ่งปลูกสร้าง ทดแทนการทำงานของคนในพื้นที่อันตราย มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพบริการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในสังคม”

ร่วมมือทรู มันนี่ เติมเงินบัตรอีซี่พาส

นอกจากนี้ กทพ.ได้หารือกับ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด ถึงความร่วมมือในการเปิดให้บริการเติมเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษบัตรอีซี่พาส ผ่านแอพพลิเคชั่น TrueMoney Wallet บนมือถือที่สามารถใช้ได้ทุกเครือข่าย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าให้มีช่องทางการเติมเงินสำรองบัตอีซี่พาสได้หลากหลายมากขึ้น โดยผู้ใช้บริการบัตรอีซี่พาสที่ต้องการเติมเงินผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น TrueMoney Wallet จาก Apple App Store มาไว้บนมือถือ เปิดบัญชีทรู มันนี่ ลงทะเบียนผู้ใช้ และใส่ข้อมูลบัตรอีซี่พาส เท่านี้ก็สามารถเติมเงินเข้าบัตรฯ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายซึ่งการเติมเงินเข้าบัตรสามารถเติมเงินได้ในอัตราขั้นต่ำครั้งละ 500 บาท และ มีอัตราเพิ่ม ในแต่ละระดับที่ 500 บาท จำกัดวงเงินสูงสุดต่อครั้งที่ 5,000 บาท และจำกัดวงเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตรฯ รวมแล้วไม่เกิน 9,999 บาท ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการบัตรอีซี่พาส ที่เติมเงินผ่านแอพพลิเคชั่น TrueMoney Wallet จะได้รับโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมจนถึงวันที่ 14 ส.ค.2560 อีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร 0-2647- 3333

ปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางพิเศษศรีรัช

อย่างไรก็ดี กทพ.ยังมีกิจกรรมพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางพิเศษศรีรัช ประจำปี 2559 บริเวณซอยสว่าง 6 ถนนมหานครในการนี้ได้รับความอนุเคราะห์ บุคลากร และยานพาหนะจากสำนักงานเขตบางรักเข้าร่วมทำกิจกรรมพัฒนาพื้นที่ฯเนื่องจากพื้นที่ในเขตทางพิเศษ บริเวณซอยสว่าง 6 ถนนมหานคร มีการลักลอบนำขยะมูลฝอยและเศษวัสดุมาทิ้ง กทพ.จึงได้ทำรั้วตาข่ายเหล็กเพื่อป้องกัน การบุกรุก แต่ยังมีลักลอบนำวัสดุมาทิ้งในเวลากลางคืนและวันหยุดราชการ กทพ.จึงทำได้เพียงจัดเก็บขยะมูลฝอยออกจากพื้นที่ได้เพียงบางส่วน เนื่องจากขยะมูลฝอยเศษวัสดุมีปริมาณมาก กทพ.จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางพิเศษศรีรัชประจำปี 2559 บริเวณ ซอยสว่าง 6 ถนนมหานครขึ้น โดยได้จัดพนักงาน กทพ.จำนวน 40 คน พร้อมกับรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน และรถยก จำนวน 1 คัน และได้ประสานขอความร่วมมือฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะสำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมกันพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว โดยสำนักงานเขตบางรัก ได้ให้ความอนุเคราะห์จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดจำนวน 40 คน เจ้าหน้าที่เทศกิจ จำนวน 10 คน รถบรรทุกขยะมูลฝอย จำนวน 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ 4 คน เข้าร่วมพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง