ศิลปหัตถกรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีความคล้ายคลึงกัน และมีหลายอย่างที่กำลังเป็นที่กังวลว่า อาจจะสูญหายไป หากไม่อนุรักษ์และสืบสานไว้
งานลงรักประดับมุก เป็นศิลปหัตถกรรมชั้นสูง ที่มีความวิจิตรงดงาม ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และความมานะอุตสาหะเป็นอย่างมากในการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้น
หากจะหาชมผลงานศิลปหัตถกรรมของไทยทั้งรูปแบบไทยโบราณไทยประยุกต์หรือการต่อยอดเชิงพาณิชย์ แนะนำให้ไปที่ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)ซึ่งเป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ และอนุรักษ์สืบสานคุณค่าศิลปหัตถกรรมไทย รวมทั้งต่อยอดเชิงพาณิชย์สู่สากล ตั้งอยู่ที่ ต.โพธิ์แตง อำเภอ บางไทร พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
The SUPPORT Arts and Crafts International Centre of Thailand (Public Organization) เรียกโดยย่อว่า “SACICT” (อ่านพ้องเสียงกับคำว่า “ศักดิ์สิทธิ์”ในภาษาไทย)ล่าสุดได้โครงการพัฒนาศิลปหัตถกรรมในวัฒนธรรมร่วม (Cross Cultural Crafts Project)ปีที่ 3ภายใต้แนวคิด “Revival of the Forgotten Heritage” หรือการฟื้นฟูมรดกศิลป์ ภูมิปัญญาที่ถูกลืม เพื่อให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านองค์ความรู้และเชิงพาณิชย์
“อัมพวัน พิชาลัย”ผอ.ศูนย์ฯ กล่าวว่า ปีนี้ได้คัดเลือกงานเครื่องมุกศิลปะของภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่กำลังจะสูญหาย มาดำเนินการระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลี และคัดเลือกครูช่างศิลปหัตถกรรมไทยไปแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีการทำงานเครื่องมุกกับครูช่างทางเกาหลี และมีผลงานมาจัดแสดงระหว่าง 11-18 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นไอเดีย ที่จะพัฒนาและต่อยอดให้เกิดความแพร่หลายต่อไป
“จักรกริศษ์ สุขสวัสดิ์” ครูช่างศิลปหัตถกรรม พ.ศ.2558 (งานลงรักประดับมุก) กับผลงานการประดับมุกบนจานทั้ง 3 แบบ โดยใช้เปลือกหอยจากทั้งสองประเทศ
“วัฒนา แก้วดวงใหญ่” ทายาทช่างศิลป์หัตถกรรม พ.ศ. 2557 (ช่างเครื่องหัวโขน) กับผลงาน“อุเบกขา” ที่ไล่ระดับความทุกข์และการปล่อยวางของมนุษย์ ใน 3 ระดับ ซึ่งสีแดงหมายถึงความทุกข์ ส่วนสีทองหมายถึงการหลุดพ้นและปล่อยวาง
“พัชรา ศิริจันทร์ชื่น” ครูช่างศิลปหัตถกรรม พ.ศ.2517 (ช่างเครื่องรัก) นำแรงบันดาลใจจากลูกชายซึ่งชื่นชอบการปั่นจักรยาน มาออกแบบผลงาน การลงรักปิดทองบนโครงรถจักรยาน และตกแต่งด้วยเปลือกหอยมุกบนแฮนด์รถ
นอกจากนั้นยังมีผลงานจากครูช่างท่านอื่น อาทิ ศิลปินรุ่นใหม่นักออกแบบจาก Innovative Craft Award 2017 รวมทั้งผลงานของ Kim Young Jun ครูช่างจากเกาหลี
ภายในอาคารหลังใหญ่ ยังมีหอนิทรรศการจัดแสดงงานตลอดทั้งปี ผู้ที่สนใจดูรายละเอียดได้ที่ http://www.sacict.or.thช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจเกิดขึ้นที่นี่ และรับรองว่ามีไอเดียมากมายเกิดขึ้นที่นี่แน่นอน