Toggle navigation
วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน 2567
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
กระบวนการยุติธรรม
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
สุขภาพ & ความงาม
"ข้าวสีนิล-งาดำ" ต้านอนุมูลอิสระ
"ข้าวสีนิล-งาดำ" ต้านอนุมูลอิสระ
วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ในยุคที่การแข่งขันสูงเช่นนี้ "หน้าเฟิร์ม" เหมือนเป็นใบเบิกทาง เพราะสามารถสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่แรกเห็น ทำให้มีโอกาสในการ แข่งขันมากกว่า ทุกคนจึงพยายามดูแลตัวเองให้หน้าเฟิร์มและดูดีอยู่เสมอ แต่ด้วยภาวะ ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลภาวะ จากแสงแดดและฝุ่นควันเรื่องนี้นับว่าเลี่ยงได้ยาก
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่เป็นตัวบ่อนทำลายผิวหนัง ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอยก่อนวัย บางครั้งความเสียหายรวมไปถึงเส้นผมหลุดร่วง ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดจาก "อนุมูลอิสระ"
อย่างไรก็ตาม การจัดการกับอนุมูลอิสระมีด้วยกันหลายวิธี ทั้งออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอและเลือกกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นประจำ
โดยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีด้วยกันหลายชนิด เช่น "งาดำ" ซึ่งมีสารเซซามินและวิตามินอีสูง ช่วยดักจับอนุมูลอิสระไม่ให้มาทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว
ธัญพืชอีกชนิดคือ "ข้าวสีนิล" ข้าวที่มีสีม่วงเข้มจนเกือบดำ ซึ่งเป็นสีของสารรงควัตถุที่อุดมไปด้วย "แอนโทไซนานิน" และ "โปรแอนโทไซยานิน" ในส่วนของปลายจมูกข้าว เมื่อสารเหล่านี้ทำงานร่วมกันจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยตามปกติสารทั้ง 2 ตัว จะพบมากในพืชหรือผลไม้ที่มีสีม่วง
โดยยิ่งสีเข้มมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งข้าวสีนิลให้สารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ถึง 3 เท่า และทำงานได้ดีกว่าวิตามินอี 5 เท่า จนได้รับสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งธัญพืชสีดำ" ช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้เสื่อมสลาย และยังช่วยขยายหลอดเลือด
นอกจากนี้ สารแอนโทไซยานินเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินอีจะช่วยให้การทำงานของดีขึ้นเพราะสารแอนโทไซยานิน จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังปล่อยอิลาสตินเป็นผลให้ผิวหนังไม่สูญเสียความยืดหยุ่น
สำหรับสุขภาพผมนั้น รายงานการวิจัยในประเทศญี่ปุ่นพบว่า ในสัตว์ทดลอง แอนโทไซยานินสามารถกระตุ้นให้ขนงอกกลับคืนมาเร็วกว่าตัวที่ไม่ได้ใช้สารถึงเท่าตัว และการศึกษาในหลอดทดลองยืนยันว่า สารแอนโทไซยานิน กระตุ้นให้เซลล์รากผมสร้างผมมากขึ้นถึง 3 เท่า
จากการศึกษาและวิจัยพบว่าการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารหลายๆ ประเภทจะให้ผลในการป้องกันมากกว่าการได้รับจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งเนื่องจากมีฤทธิ์ส่งเสริมกัน
ดังนั้น หากรับประทานงาดำควบคู่กันกับข้าวสีนิล ซึ่งเป็นราชาและราชินีแห่งธัญพืชในการต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงขึ้นด้วย
ด้านอาหารที่พบงาดำได้มากและหาทานได้ในง่ายราคาไม่แพง คือ น้ำเต้าหู้ใส่งาดำ ซึ่งมีขายทั่วไปทั้งตามถนนหนทางและห้างสรรพสินค้า
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ